Monday, July 4, 2011

ลิลลี่สีกุหลาบ ตอนที่ 2

หงุดหงิดงุ่นง่านจนเถ้าแก่จางต้องโทร.เตือนเพ้ง “ปีเตอร์จะไปตามลิลลี่ที่เมืองไทยแล้ว ฉันอยากให้แกเจอลิลลี่ก่อนปีเตอร์ แล้วพาลิลลี่กลับบ้านให้เร็วที่สุด แต่จำไว้นะว่าถ้าเจอปีเตอร์ก่อนก็ห้ามบอกว่าแกสองคนไปตามลิลลี่”

เพ้งยังไม่รู้จะตามลิลลี่ที่ไหน เถ้าแก่จางหัวเสีย “อ้าว แล้วแกสองคนเจอลิลลี่ที่ไหนล่ะ”

เพ้งหันมาสบตาเต็กราวกับนึกออก พอวางสายจึงรีบไปเตร็ดเตร่แถวโรงแรมที่พบลิลลี่ี่...

เย็นวันนั้น ดาหวันบุกไปที่บ้านณพ เจอกับปทุมวดีวางท่าเป็นเจ้าของบ้าน สั่งไม่ให้ใครเปิดประตูรับ ดาหวันเข้าใจว่าปทุมวดีเป็นเมียณพ ก็โวยวายด่าทออยู่หน้าบ้านพักใหญ่ถึงกลับไป

ปทุมวดีสั่งสร้อยกับนวลจัดโต๊ะอาหารเตรียมต้อนรับพิพัฒน์ เอาชุดจานชามของใหม่ออกมาใช้ นวลเปรยๆว่าเป็นของรักของหวงของคุณนาถ สร้อยปากเสียทันที

“แล้วเป็นไงล่ะป้า ตายแล้วเอาไปด้วยได้หรือเปล่า”

“นังสร้อย อย่าก้าวร้าวไปถึงวิญญาณคุณผู้หญิงนะ”

“ป้าจะพูดทำไม คุณนาถคงไปเกิดแล้วมั้ง”

ปทุมวดีเข้ามาพลางพูด “ฉันว่ายังอยู่ในนรกมากกว่า แต่ไม่รู้ว่าขุมไหนเท่านั้น”

“คุณไม่น่าพูดยังงี้ คุณนาถเป็นคนดี ประตูนรกปิดตายไม่ต้อนรับท่านหรอก แต่บางคนน่ะไม่แน่ ประตูนรกเปิดอ้ารอคอยเลยล่ะ”

“แกหมายถึงใคร หานังนวล”

“อิฉันคงไม่ต้องเอ่ยชื่อมังคะ...”

“นังนวล...” ปทุมวดีโกรธเงื้อมือจะตบ อาคมเดินเข้ามาพอดี ถามว่าคุยอะไรกันเสียงดัง ปทุมวดีรีบแก้ตัวว่า กำลังสอนนวลให้จัดโต๊ะอาหาร “...ตอนเมียคุณพี่ยังมีชีวิตอยู่ คงไม่ค่อยได้ต้อนรับแขกมังคะ นังพวกนี้ถึงทำไม่เป็น”

“ถ้ามีงานเลี้ยง นาถเขามักใช้บริการของโรงแรม”

“อุ๊ยไม่ได้ค่ะ ต่อไปบ้านนี้ต้องรับแขกบ่อยๆ แขกไปมาหาสู่น่ะ แสดงว่าเจ้าของบ้านเป็นคนมีบารมีนะคะคุณพี่”

“ตามใจคุณเถอะ แล้วนี่พี่ชายคุณจะมาเมื่อไหร่”

“เดี๋ยวคงมาแล้วล่ะค่ะ สร้อย...แกไปคอยต้อนรับคุณพิพัฒน์พี่ชายฉันที่หน้าบ้าน” ว่าแล้วปทุมวดีก็สั่งนวลให้จัดอาหารขึ้นโต๊ะ แล้วหันไปออดอ้อนอาคมว่าพี่ชายอยากมาดูว่าตนมีความสุขดีไหม อาคมย้อนถามว่าเธอไม่มีความสุขหรือ

“เปล่าค่ะ แต่ปทุมอยากให้พี่ชายเห็นว่าคุณพี่รักปทุม เลี้ยงปทุมอย่างดี คุณพี่ขา...ขอสร้อยเพชรใส่สักเส้น พี่ชายปทุมจะได้สบายใจ” ปทุมวดีซบหน้ากับแผ่นอกอาคม

ด้วยความหลง อาคมจึงเปิดกล่องเพชรให้ปทุมวดีดู เธอถึงกับตาโต อาคมเลือกสร้อยมาเส้นหนึ่งส่งให้ “วันนี้เอาเส้นนี้ไปใส่ก่อนนะ ยังมีอีกเยอะ”

“คงสวยทุกชิ้นเลยใช่ไหมคะ ปทุมอยากเห็นจัง”

“กุญแจเซฟมันไม่ได้อยู่ที่พี่คนเดียวน่ะสิ”

ปทุมวดีหน้าเสีย อาคมชี้แจงว่ามีกุญแจสองดอก

ดอกหนึ่งอยู่กับเขา อีกดอกอยู่กับณพ ปทุมวดีอึ้ง เข่นเขี้ยวในใจ...คิดหรือว่าตนไม่มีปัญญา สมบัติทุกชิ้นมันต้องเป็นของตน...

สร้อยยืนชะเง้ออยู่หน้าบ้าน พอมีรถแล่นเข้ามา ก็มั่นใจว่าเป็นพิพัฒน์แน่ จึงปรี่เข้าไปเปิดประตูรถและสวัสดีอย่างนอบน้อม พลันปทุมวดีออกมาเข้าไปโอบกอดและบอกว่าคิดถึง ท่าทางสนิทสนมเกินพี่น้องจนสร้อยตะลึง อาคมตามออกมา ปทุมวดีรีบแนะนำ อาคมเชื้อเชิญให้เข้าบ้าน ปทุมวดีเห็นบนโต๊ะยังไม่มีอาหารมาวางก็ไม่พอใจเรียกสร้อยเข้าครัวไปดูนวล อาคมไปเลือกไวน์มารับรอง พิพัฒน์กวาดตามองข้าวของในบ้านอย่างพอใจ หยิบโน่นนี่ดู นวลเข้ามาขัด

“นั่นของคุณณพ คุณไม่มีสิทธิ์แตะต้อง”

พิพัฒน์ฉุน “ทำไมฉันจะแตะต้องไม่ได้ แกรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร”

“ทำไมฉันต้องรู้ว่าคุณเป็นใคร”

“งั้นก็จำใส่กะโหลกของแกเอาไว้ ว่าฉันคือพี่ชายของคุณปทุมวดี คุณผู้หญิงของบ้านนี้ ต่อให้เป็นของคุณอาคม ถ้าคนอย่างนายพิพัฒน์ต้องการ ใครหน้าไหนก็ห้ามไม่ได้” พิพัฒน์วางของลงอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเดินผิวปากกวนๆออกไป

นวลใจเสีย แอบโทร.ฟ้องณพและขอให้รีบกลับบ้าน พลัน ปทุมวดีมากระชากโทรศัพท์ปาทิ้ง ณพตกใจว่าต้องเกิดอะไรขึ้นกับนวลแน่ จึงบอกเก่งว่าเขาต้องกลับบ้านแล้ว...นวลถูกปทุมวดีใช้นิ้วจิ้มหน้าผาก ตวาดใส่อย่างไม่เกรงใจทั้งที่เป็นผู้ใหญ่กว่า

“สาระแนนัก จำใส่กะโหลกกลวงๆของแกไว้นะ ที่นี่เป็นบ้านฉัน ไม่ใช่ของเจ้าณพ นายของแกอีกต่อไปแล้ว”

“แต่คุณณพเป็นทายาทคนเดียวของคุณผู้ชาย”

“ฝันไปเถอะ...” ปทุมวดีหัวเราะเยาะ ก่อนจะไล่นวลไปจัดโต๊ะอาหาร...

บรรยากาศบนโต๊ะอาหาร อาคมกับพิพัฒน์คุยกันถูกคอ หัวเราะเสียงดัง สร้อยที่คอปทุมวดีเตะตาพิพัฒน์อย่างจัง
ณพเดินเข้ามาบรรยากาศเปลี่ยนเป็นเงียบทันที อาคมทักลูกชายและชวนทานข้าวแต่ณพบอกไม่หิวจะเดินไป ปทุมวดีจงใจพูดให้ณพได้ยิน

“ลูกชายคุณพี่คงไม่พอใจที่พี่พิพัฒน์มาที่บ้านนี้น่ะค่ะ ปทุมมันก็แค่คนอาศัยไม่มีทะเบียนสมรสมาอ้างสิทธิ์อะไรในบ้านหลังนี้”

“ฝันถึงขนาดนั้นเลยเหรอ คุณแม่เลี้ยง” ณพหันมาถามและเดินเข้าหา

“คุณพี่ ดูลูกชายคุณพี่สิ หาเรื่องปทุม...”

อาคมลุกขึ้นขวาง “ณพ แกให้เกียรติปทุมกับคุณพิพัฒน์บ้างสิ หรือไม่ก็ไว้หน้าฉันบ้าง”

ณพมองหน้าพิพัฒน์และปทุมวดีแล้วเดินขึ้นบันไดไป อาคมขอโทษพิพัฒน์แทนลูก พิพัฒน์ลากลับ ปทุมวดีเดินออกไปส่ง พอออกมาพ้นตัวบ้าน ปทุมวดีก็สบถออกมา

“อยากฆ่ามันนัก จะกลับมาทำไมก็ไม่รู้ คอยดูนะ ปทุมจะทำไม่ให้มันกลับมาที่นี่ได้เลย”

“จะให้ผมช่วยอะไรก็บอกนะ”

“ปทุมจะอดทนจนกว่าจะสูบสมบัติจากไอ้แก่นี่ก่อน แล้วเราจะอยู่ด้วยกันนะคะพัฒน์”

ปทุมวดีกับพิพัฒน์กอดกันกลม นวลผ่านมาเห็นยืนอึ้งตกตะลึง

ooooooo

ในห้องนอนอาคม ณพยืนมองกำแพงที่ว่างเปล่า อาคมเดินเข้ามา ณพถามพ่อทันทีว่าทำไมไม่เอารูปแม่ของเขามาไว้ที่เดิม อาคมไม่ตอบแต่กลับตำหนิที่ณพทำตัวมีปัญหา ณพประชดว่าเขามีปัญหาอยู่แล้ว แต่ถ้าพ่อจะมีความสุขกับเมียใหม่ เขาก็ยินดีด้วย

“แกจะว่าอะไรมั้ย ถ้าพ่อจะขอกุญแจเซฟของแม่แกไปให้ปทุมถือไว้” พอเห็นณพหน้าเสีย อาคมก็อธิบายว่า ปทุมวดีเป็นเมียเขา ควรได้สิทธิ์ถือกุญแจเซฟ

“ผมไม่ใช่คนโลภ ผมไม่ได้หวังสมบัติของพ่อ ตอน แม่เสียผมก็ได้ส่วนแบ่งมากพอแล้ว แต่ผมรู้สึกว่าเมียใหม่ของพ่อไม่จริงใจ ไม่ได้รักพ่อเหมือนที่แม่รัก เขาเข้ามาเพื่อปอกลอกพ่อ”

“ไม่จริง ปทุมรักพ่อ แกอย่าทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลย
แกมีอคติกับเขา หวงฉันแทนแม่ของแก ทั้งที่แม่แกไม่มีวันฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว”

ไม่คาดคิดว่าพ่อจะมองตนอย่างนี้ ณพขึ้นเสียง “ถ้าเมียใหม่ของพ่อรักพ่อจริง ทำไมต้องมาขอกุญแจเซฟ ไปถือไว้ล่ะครับ”

อาคมเสียงดังกลับไม่แพ้กันว่าปทุมวดีเป็นเมีย เขาต้องให้เกียรติ ณพหาว่าพ่อหลงเมีย อาคมโกรธ “หยุดนะเจ้าณพ แกไม่ต้องมาสอนฉัน แล้วก็ไม่มีสิทธิ์ลามปามไปถึงปทุมด้วย”

“แต่สมบัติครึ่งหนึ่งคือหยาดเหงื่อของแม่ที่เหน็ดเหนื่อยมากับพ่อ พ่อจะให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาชุบมือเปิบเหรอครับ ทำไมพ่อไม่นึกถึงใจผมบ้าง”

สองพ่อลูกเถียงกันเสียงดัง ปทุมวดีแอบฟังยิ้มด้วยความสะใจ อาคมลำเลิกว่าเงินก็ของเขา เครื่องเพชรก็ของเขา กุญแจเซฟก็ด้วย ณพน้อยใจสุดๆจึงขอสร้อยของแม่เพียงเส้นเดียว

“สร้อยที่เป็นตัวแทนของความรักแท้และมั่นคงของแม่ที่มีต่อพ่อ ผมขอคืน”

“มันก็แค่สร้อยรูปปลาโลมา แม่แกเชื่ออะไรงมงาย ใส่สร้อยแล้วความรักจะยั่งยืน ฉันไม่เชื่อหรอก”

“ถ้างั้นผมขอไปเก็บไว้ อย่างน้อยวิญญาณแม่จะได้ไม่ต้องร้องไห้ที่เห็นพ่อเปลี่ยนไป”

อาคมให้ณพไปไขเซฟด้วยกัน ปทุมวดีหูผึ่งจะหลบแต่ไม่ทัน อาคมกับณพเปิดประตูออกมา ปทุมวดียิ้มแหยๆ
ทำเป็นถามว่าจะรับน้ำอะไรบ้างไหม ณพยิ้มเยาะรู้ทัน อาคมไม่เอา เดินไปกับณพ ปทุมวดีตามไปแอบดูอีก พอได้เห็นว่าในห้องเก็บตู้เซฟ มีเซฟสามใบ ใหญ่ กลาง เล็ก อาคมกับณพใช้กุญแจคนละดอกไขร่วมกัน ปทุมวดีเห็นทั้งเงิน ทอง และเครื่องเพชรก็ตาโต

“โห...มีตั้งสามใบ สมบัติไอ้แก่ต้องมากมายมหาศาลเลย” ปทุมวดีเผลอทำเสียงดัง

สองพ่อลูกสะดุ้งหันไปมอง ปทุมวดีหน้าเหวอ อาคมรีบปิดตู้เซฟ ณพต่อว่าเสียมารยาท

“ต่อไปนี้คงฝันหวานว่าจะกอบโกยสมบัติของพ่อผมยังไงดีสินะ คุณแม่เลี้ยง”

“โอ๊ย ปทุมไม่ได้ตั้งใจ คุณพี่ปิดประตูไม่สนิทต่างหากล่ะคะ ปทุมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตรงนี้มีห้อง...ห้องอะไรหรือคะคุณพี่” ปทุมวดีออดอ้อนทำไม่รู้เรื่อง

อาคมบอกหมดแล้วยื่นกุญแจให้หนึ่งดอก ณพส่ายหน้าเดินออกไป ไม่อยากเห็นปทุมวดีออเซาะพ่อตัวเอง เขาไปเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินกลับออกมา อาคมเห็นถามว่าจะไปไหนอีก ณพย้อนว่าไม่ต้องมาสนใจเขา แต่เขาขอเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่าผู้หญิงคนนี้ไม่จริงใจ ปทุมวดีได้ยินร้องโอดโอยจะเป็นลม อาคมรีบประคอง ณพหมั่นไส้เดินไป นวลหน่ายใจวิ่งตามณพไปแต่ไม่ทัน ณพขับรถออกไปแล้ว สร้อยออกมาเตือนว่ายุคนี้เป็นยุคของการอยู่รอด ระหว่างเมียใหม่กับเมียที่ตายไปแล้ว ควรจะเข้าข้างไหน นวลไม่สนใจยังคงซื่อสัตย์ต่อนาถแม่ของณพ

ooooooo

เพราะไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ ลิลลี่จำต้องเอาเสื้อผู้ชายในกระเป๋ามาใส่ แต่ผูกชายเสื้อเท่ๆ สวมหมวกดูเก๋ไก๋ไปอีกแบบ ผิดกับเพ้งและเต็กที่แต่งตัวเนี้ยบเข้ามาเดินเตร่ในโรงแรม พอเห็นลิลลี่ไวๆจึงจำไม่ได้ แต่เธอเห็นเขาทั้งสอง รีบหลบแล้วเจ็บใจที่ต้องมาแต่งตัวแบบนี้ จึงคิดว่าต้องไปหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ พลันเพ้งเอะใจหันไปมองลิลลี่อีกที

ร้านเสื้อแห่งหนึ่ง นัดดาพนักงานในร้านกำลังโดนดาหวันโวยวายปาเสื้อใส่หน้าเพราะไม่พอใจที่ไม่มีไซส์ที่ต้องการก่อนจะปึงปังออกไป เจ้าของร้านมาเห็นปลอบนัดดาว่าทำงานบริการต้องอดทน นัดดาเข้าใจ เธอหน้าเศร้าขอเบิกเงินล่วงหน้าไปจ่ายค่าเช่าบ้าน เจ้าของร้านเหนื่อยใจเพราะนัดดาเบิกล่วงหน้าประจำ แต่ก็เข้าใจว่าเธอมีความจำเป็นจริงๆจึงให้ไปทุกครั้ง

ลิลลี่แปลงโฉมเป็นชุดสวยเฉี่ยวตามสไตล์ และเลือกซื้อชุดใหม่อีกหลายชุด หอบถุงเดินออกมา...ดาหวันโทร.หาณพ แต่เขาตัดสายทิ้ง เธอเดินหงุดหงิด เพ้งกับเต็กตามลิลลี่มาที่ห้าง วิ่งมองหาจนชนเข้ากับดาหวันอย่างจัง เพ้งขอโทษแล้วผละไป ดาหวันกำลังโกรธไม่พอใจแกล้งโวยวายว่าเพ้งกระชากกระเป๋า ทำให้เพ้งกับเต็กต้องวิ่งหนี รปภ. ...ลิลลี่เห็นวิ่งหนีเพ้งกับเต็กลงบันไดเลื่อนมา เผอิญณพถือสร้อยโลมาของแม่ไว้ในมือ กำลังจะกดเอทีเอ็ม ลิลลี่วิ่งมาชน สร้อยหลุดมือหล่นไปในถุงเสื้อของเธอ ทั้งสองต่างตะลึง

“คุณนั่นเอง...” ณพกับลิลลี่พูดพร้อมกัน

ลิลลี่เก็บถุงที่หล่นจะวิ่งหนีต่อ ณพมองอย่างเข้าใจ “หนีพวกแมงดาอีกแล้วเหรอ คุณรีบหนีไป ผมจัดการเอง”

ลิลลี่งงไม่เข้าใจว่าแมงดาคืออะไร แต่พยักหน้าวิ่งหนีไปก่อน ณพจะขวางเพ้งกับเต็กแต่ทั้งสองกำลังวิ่งหนี รปภ.ออกจากห้างไป...ลิลลี่นั่งอยู่บนรถแท็กซี่ เธอนึกได้ เสียดายไม่รู้ว่าจะได้เจอณพอีกหรือเปล่า เธอกลับห้องพักรื้อเสื้อผ้าออกจากถุง พบสร้อยโลมา

“มาได้ไงเนี่ย...หรือว่า...ต้องเป็นของนายนั่นแน่ๆ” ลิลลี่ยิ้มออกมาได้

เพ้งกับเต็กกลับมาที่ห้องพักให้สภาพเหนื่อยอ่อน เพ้งบ่นว่าอยากพาตัวลิลลี่กลับฮ่องกงเพราะสงสารที่ต้องจำใจแต่งงาน เต็กเบื่อความลำบากที่เมืองไทยอยากกลับบ้าน แต่เถ้าแก่จางสั่งว่าต้องได้ตัวลิลลี่กลับไปด้วย เพ้งจึงคิดว่าคงต้องใช้วิธีเจรจากับเธอจะดีกว่า...

ณพกลับมาถึงคอนโดฯ เขาบอกเก่งว่าเขาจะคืนคอนโดฯให้พ่อแล้วไปอยู่บ้านเก่ง เก่งบอกทนอยู่บ้านจนๆได้เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่อยากจะเตือน “เอ็งอย่าลืมสิว่าของพวกนี้เป็นของเอ็ง แม่เอ็งก็มีส่วนเป็นเจ้าของด้วย ถ้าเขายังไม่ทวง เอ็งก็ทำเฉยไปก่อนสิ เผื่อเกิดอะไรขึ้น เอ็งจะได้มีที่ซุกหัวนอน รถก็เหมือนกัน เอ็งไม่มีรถใช้ เอ็งจะยิ่งลำบาก”

“แต่ตอนนี้ อะไรๆมันก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว ข้าไม่สนใจอะไรอีก ได้สร้อยของรักของหวงของแม่คืนมา ข้าก็ดีใจแล้ว”

เก่งถามว่าสร้อยอะไร ณพจะหยิบให้ดู จึงรู้ว่าสร้อยหายไป เขาสงสัยว่าทำหล่นที่บ้าน พรุ่งนี้คงต้องกลับไปเอา...

วันรุ่งขึ้น ณพกลับมาบ้าน เห็นปทุมวดีกำลังคุยโทรศัพท์กับพิพัฒน์ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดูไม่น่าไว้ใจ พอวางสาย เธอหันมาเจอเขาก็วางอำนาจทันที “ไหนแกว่าออกไปจากบ้านของฉันแล้วไง แล้วกลับมาทำไม”

“กล้าพูดนะว่าบ้านของฉัน มีแต่คนหน้าด้านเท่านั้นแหละ ที่จะทึกทักเอาของคนอื่นเป็นของตัวเอง”

ปทุมวดีโกรธจนตัวสั่นเงื้อมือจะตบ ณพไวกว่าจับมือไว้ได้ “เก่งนักเหรอ ผู้ดีเขาไม่ทำกันหรอกนะยังงี้น่ะ นอกจากพวกสิบแปดมงกุฎหวังเข้ามาฮุบสมบัติคนอื่นแบบคุณ”

ปทุมวดีดิ้นรนแล้วยกเท้าจะกระทืบเท้าณพ ณพเบี่ยงหลบทำให้ปทุมวดีเซมาปะทะอก อาคมเข้ามาเห็นตกใจตะโกน “เจ้าณพ แกทำอะไรปทุม”

ปทุมวดีสะบัดตัวออกวิ่งมากอดอาคมร้องไห้ ปั้นเรื่องว่าณพลวนลาม ณพโวย “โกหก ผมก็แค่กลับมาเห็นเมียพ่อพูดโทรศัพท์เสียงอ่อนเสียงหวานกับผู้ชายเท่านั้นเอง กลัวถูกจับได้ล่ะสิว่ามีผู้ชายอื่นอยู่ด้วย หา...นังแพศยา”

“แกอย่าก้าวร้าวปทุมเขานะเจ้าณพ อย่าลืมว่าเขาเป็นแม่เลี้ยงของแก”

“ผู้หญิงต่ำๆยังงี้ ผมไม่นับถือหรอก เชิญพ่ออยู่กับเขาไปคนเดียวเถอะครับ ผมพูดได้คำเดียวว่าเขาไม่ซื่อกับพ่อ”

“อะไรของแก เจ้าณพ” อาคมหันไปมองหน้าปทุมวดี

“ลูกชายคุณพี่ใส่ร้ายปทุม ปทุมแค่พูดโทรศัพท์กับพี่ชาย ผิดด้วยหรือคะคุณพี่”

“พี่ชาย...คุณนี่นะนอกจากจะเป็นเมียน้อยมืออาชีพแล้ว ยังเป็นนักแสดงที่ตีบทแตกอีกด้วย เจ้าเล่ห์มารยาจนน่าจะได้รางวัลแพศยายอดเยี่ยมแห่งปี” ณพหัวเราะเยาะก่อนจะเดินไป

อาคมพลอยโมโหหลุดปากไล่ณพออกจากบ้าน ปทุมวดี ยิ้มเยาะแต่ไม่ลืมที่จะทำออเซาะเสียใจที่โดนกล่าวหา สร้อยแอบมองยิ้มพอใจกับความเจ้าเล่ห์ของเจ้านายใหม่...นวลเข้ามาหาณพขอร้องอย่าทิ้งบ้านไป ณพน้อยใจที่พ่อเห็นเมียใหม่ดีกว่า ตนจะทนอยู่ได้อย่างไร เขานึกได้ถามนวลว่าเห็นสร้อยโลมาของแม่ไหม นวลส่ายหน้า เขาจึงฝากไว้ว่าถ้าเจอให้โทร.บอกเขาด้วย

กลับมา ณพดูเคร่งเครียดจนเก่งต้องทักว่า “ถ้ารู้ว่าเอ็งกลับบ้านแล้วจะเศร้าโศกายังงี้ ข้าไม่ให้เอ็งกลับไปหรอก ทะเลาะกับพ่อมาอีกเหรอวะ”

“เออ ทะเลาะกับเมียใหม่ของพ่อด้วย”

เก่งถอนใจที่ณพทำตัวเหมือนเด็กขี้อิจฉา จึงเตือนว่า ถึงอย่างไรก็เหลือกันสองคนพ่อลูก ณพสวนทันที “เคย
เหลือต่างหาก ตอนนี้พ่อมีคนดูแล ไม่ต้องการลูกเจ้าปัญหาอย่างฉันหรอก”

ณพคว้าเครื่องดื่มที่เก่งวางไว้มาซดรวดเดียวหมดแก้วอย่างระบายอารมณ์

ooooooo

ถ้วยชาในมือเถ้าแก่จางกระแทกลงบนโต๊ะ ด้วยความตกใจเมื่อปีเตอร์โทร.มาบอกว่าจะไปหาลิลลี่ที่เมืองไทยและสงสัยว่ามีอะไรปิดบัง เถ้าแก่จางปฏิเสธเสียงหลงและปลอบให้ใจเย็น

“ไม่เย็นแล้วล่ะครับ อย่าให้ผมรู้นะว่าเถ้าแก่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรกับผม ไม่งั้นล่ะก็ผมไม่ไว้ชีวิตเถ้าแก่กับลิลลี่แน่” ปีเตอร์ตัดสายอย่างไม่มีความเคารพยำเกรง

สาวใช้เข้ามารายงานว่ามีคนมาหา ปีเตอร์โวยไล่ตะเพิดไม่อยากพบใครทั้งนั้น สาวใช้ลนลานถอยหนีจึงชนเข้ากับเฮเลนที่เดินตามเข้ามา ปีเตอร์เห็นตกใจรีบเข้าไปประคองให้ลุกขึ้น

“พี่เฮเลน พี่กลับมาจากอเมริกาเมื่อไหร่ครับนี่”

“พี่เพิ่งมาถึง กะจะเซอร์ไพรส์ปีเตอร์ซะหน่อย...โมโหอะไรอยู่เหรอ”

ปีเตอร์หน้าเจื่อนขอโทษขอโพยพี่สาว ก่อนจะระบายเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดให้ฟัง แล้วจึงถามว่าเฮเลนกลับมาทำไม เฮเลนบอกว่าธุรกิจที่อเมริกาขาดทุน ตนจึงขายร้านไปแล้วและจะกลับมาอยู่บ้าน ปีเตอร์ไม่ว่าอะไรแถมชวนให้ช่วยกันดูแลธุรกิจที่ฮ่องกง เพราะเขาจะไปตามคนรักที่เมืองไทย เฮเลนอวยพรให้โชคดี

คืนเดียวกัน ริมถนนหน้าภัตตาคารจีน เกิดเหตุไล่จับโจรสองคน เฮเลนขับรถเข้ามาพอดีจึงถูกโจรเอาปืนขู่จะเอาเป็นตัวประกัน เฮเลนตัดสินใจเปิดประตูกระแทกโจร ปืนร่วงหล่น แล้วลงมาเตะซ้ำวิ่งหนี โจรแค้นคว้าปืนจะยิงตาม เฮเลนวิ่งมาชนกับเถ้าแก่จาง เขากอดเธอม้วนตัวหลบกระสุนพร้อมกับเสียงไซเรนตำรวจดังมารอบทิศ โจรถูกตำรวจรวบตัวได้ เฮเลนรู้สึกตัวว่าอยู่ในอ้อมกอดผู้ชาย ทั้งสองสบตากัน เถ้าแก่จางยิ้มแหะๆค่อยๆปล่อยเธอ เฮเลนกล่าวขอบคุณ ทั้งสองเข้ามานั่งทานอาหารในภัตตาคารด้วยกัน เฮเลนขึ้นร้องเพลงบนเวที ทำเอาเถ้าแก่จางเคลิ้ม

ooooooo

และแล้ว ขณะที่เพ้งตั้งใจดักรอเจรจากับลิลลี่ เขาก็เห็นปีเตอร์มายืนขวางลิลลี่ที่ล็อบบี้โรงแรม เพ้งจำต้องหลบ ปีเตอร์ต่อว่าลิลลี่ที่มาเมืองไทยไม่บอก ลิลลี่พึมพำขืนบอกก็ไม่ได้มาแต่พูดออกไปว่าเห็นเขางานยุ่ง

“เรากำลังจะแต่งงานกัน ลิลลี่จะใช้อารมณ์แบบเด็กๆไม่ได้แล้ว ต่อไปนี้จะไปไหนมาไหนต้องบอกผมก่อน”

“บอกแล้วคุณจะเชื่อฉันเหรอ”

“เชื่อสิ” ปีเตอร์ยืนยัน

“งั้นยกเลิกงานแต่งซะ”

“ลิลลี่...ล้อเล่นใช่มั้ย”

“ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันไม่มีวันแต่งงานกับคุณ”

“อย่าล้อเล่นแบบนี้กับผมอีก ผมไม่ชอบ ฟังแล้ว
ปวดใจ...ลิลลี่ คุณคือสิ่งสำคัญที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตผม”

ลิลลี่ไม่อยากเชื่อ พลันมือถือปีเตอร์ดังขัดขึ้น เขารับสายแล้วโวย “ฉันรออยู่ที่โรงแรมตั้งนานแล้ว ไหนว่าจะนัดคนที่จะทำธุรกิจให้มาเจอฉันไง ฉันจะรออีกชั่วโมงเดียว ถ้านักธุรกิจคนไทยยังไม่มา ฉันจะไล่แกออก”

ลิลลี่เอือมกับความบ้าอำนาจของปีเตอร์ จึงเดินหนี ปีเตอร์หันมางงว่าเธอหายไปไหน...เพ้งกับเต็กรีบหลบเกรงลิลลี่กับปีเตอร์เห็น เพ้งถอนหายใจเศร้าๆว่าปีเตอร์คงพาลิลลี่กลับไปแต่งงานแน่ เต็กมองเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ...ปีเตอร์วิ่งออกมาหน้าโรงแรม เห็นลิลลี่ขึ้นรถแท็กซี่ออกไปจะตามก็พอดีมือถือดังขัดขึ้นอีก เขารับอย่างหงุดหงิดแล้วต้องชะงักพูดเป็นการเป็นงาน

“โธ่เว้ย...ครับ คุณทวี ผมรออยู่ที่โรงแรมแล้วครับ อ๋อ...ครับ เดี๋ยวพบกันครับ...”

ขณะที่ณพมาเคารพอัฐิแม่ที่วัด เขาวางพวงมาลัยแล้วรำพึง ขอโทษที่ทำสร้อยของแม่หาย เขาเสียใจที่แม้แต่สร้อยเพียงเส้นเดียวเขายังรักษาไว้ไม่ได้ ช่างบังเอิญที่ลิลลี่มาไหว้พระที่วัดนี้เช่นกัน เธอเดินถ่ายภาพบริเวณวัด แล้วเห็นณพผ่านเลนส์กล้อง เธอดีใจที่ได้พบเขาอีก

“ในที่สุดเราก็ได้เจอกันจนได้” ลิลลี่ยิ้ม แต่พอเห็นสีหน้าณพก็ผิดหวัง “ฉันคิดว่าคุณจะดีใจที่ได้เจอฉันซะอีก นี่คุณมาทำงานกับฉันเถอะนะ” ลิลลี่รีบชวนเมื่อเห็นณพจะ
เดินหนี

ณพคิดในใจ ให้เขากินเงินเดือนจากงานที่เธอทำ หัวเด็ดตีนขาดเขาก็รับไม่ได้ จึงปฏิเสธออกไป ลิลลี่งงวิ่งตามมาดักหน้า “นี่คุณ ยอมทำงานให้ฉันเถอะนะ คุณเก่ง มีฝีมือ ถ้าวันนั้นคุณไม่ช่วยฉัน ฉันคงถูกจับตัวไปแน่ๆ ที่นั่นน่ะเหมือนตกนรกทั้งเป็นเลยนะ”

“คุณทำงานหนัก คุณเก็บเงินของคุณไว้เถอะ”

ลิลลี่ขัดใจเสนอเงินเพิ่มเป็นสี่หมื่น ณพยังจะเดินหนี เธอชักฉุนจึงเพิ่มเป็นห้าหมื่นแล้วเปิดกระเป๋าให้ดูว่าตนมีเงินมากจริงๆ “ดูสิ ฉันมีเงินมากพอจ้างคุณเป็นบอดี้การ์ดนะ”

ณพหันกลับมามอง เห็นเงินดอลลาร์เป็นปึก กลับสงสัยว่าแบงก์ปลอมหรือเปล่า ลิลลี่เห็นเขานิ่งจึงท้วง แล้วคลี่กระเป๋าบัตรเครดิตออกมาให้ดู “ว่าไง คิดนานจัง ฉันไม่ได้มีแค่เงินนะ ดูนี่สิ นี่แค่ส่วนเดียวนะจะบอกให้”

ณพงึมงำกับตัวเอง “ผู้หญิงหากินธรรมดาจะหาเงินเก่งขนาดนี้เลยเหรอ...คุณเป็นใครกันแน่” ณพถามเสียงเข้ม

“เป็นใครก็ช่าง รู้แต่ว่ามีเงินมากพอจ้างคุณทั้งปี โอเค้...”

“ไม่โอเคด้วย...ลาล่ะ” ณพเดินหนี

ลิลลี่กระทืบเท้าอย่างขัดใจ ขนาดปีเตอร์ยังไม่กล้าทำแบบนี้

ooooooo

ในขณะที่ปีเตอร์มาพบกับทวีเพื่อให้แนะนำคนมาลงทุนทำธุรกิจในเมืองไทยด้วย เขามีโครงการขยายธุรกิจด้านกีฬา ต้องการผู้ร่วมทุนที่มีใจรักกีฬา ทวีแนะนำอาคมให้

“คุณอาคมเป็นเจ้าของและผู้ถือหุ้นหลายบริษัทจนจำไม่ไหว เป็นพ่อม่ายเนื้อหอมที่สาวๆต่างหมายปอง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจลงเอยกับสาวสวยคนหนึ่งแบบเงียบๆ เพราะอะไรผมไม่ทราบ แต่เธอสวยบาดใจชนิดเพื่อนๆวัยเดียวกันต้องอิจฉาเลยครับ เรียกว่ารุ่งทั้งงานและก็ความรัก น้อยคนนักนะครับจะโชคดีแบบคุณอาคม”

ปีเตอร์ฟังแล้วถอนใจที่ตัวเองทำไมไม่สมหวังด้านความรักบ้าง...หลังจากนั้น ทวีก็โทร.บอกอาคมและนัดให้มาพบกับปีเตอร์ อาคมดีใจจะเล่าให้ปทุมวดีฟัง สร้อยรายงานว่า ปทุมวดีออกไปทำผมและแวะเยี่ยมพี่ชาย นวล
เสริมว่าออกไปตั้งแต่เช้า...

ปทุมวดีมาหาพิพัฒน์ อวดแหวนเพชรที่นิ้วและบอกว่าอาคมยังมีอีกมาก ตนจะสูบเอามาให้หมด แล้วจะไปเริ่ม
ต้นชีวิตใหม่ด้วยกันที่เมืองนอก แต่เขาต้องแสดงบทพี่ชายให้แนบเนียน ปทุมวดีเชื่อใจพิพัฒน์โดยไม่รู้เลยว่าเขามี
หญิงอื่นที่อำนวยกับกิติลูกน้องคอยหามาให้

ลิลลี่ยังเดินตามตื๊อณพ เพราะนึกได้ว่าตัวเองมีของมาต่อรอง เธอดึงสร้อยโลมาออกมาชูตรงหน้าเขา “ถ้าคุณหนีฉันอีก คราวนี้ฉันจะโยนสร้อยเส้นนี้ลงน้ำ”

ณพตะลึงถามอย่างตื่นเต้น “สร้อย...สร้อยของแม่ผมไปอยู่กับคุณได้ยังไง”

“สร้อยเส้นนี้ต้องเป็นสร้อยนำโชคแน่ๆเลยฮึ เป็นของแม่ด้วยหรอ คราวนี้คุณต้องเป็นบอดี้การ์ดให้ฉันแน่” ลิลลี่วิ่งไปที่ศาลาริมน้ำแล้วยื่นสร้อยออกไป

“เอามานี่นะ คืนสร้อยแม่ผมมา” ณพจะเข้ายื้อแย่ง

“หยุดนะ ขืนคุณเข้ามาอีกก้าวเดียว ฉันจะโยนสร้อยเส้นนี้ลงน้ำ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะยอมเป็นบอดี้การ์ดให้ฉัน” ลิลลี่ทำท่าจะขว้าง ณพกระโจนเข้าคว้าตัวเธอล้มกลิ้งไปด้วยกัน

ณพคร่อมอยู่บนตัวลิลลี่ เธอยังคงยื่นมือที่ถือสร้อยออกไปในน้ำ “ปล่อยฉัน ก่อนที่ฉันจะทิ้งสร้อยเส้นนี้ลงน้ำ แล้วก็ยอมเป็นบอดี้การ์ดให้ฉันด้วย”

ณพจ้องตาลิลลี่ จากที่แข็งกร้าวเป็นอ่อนหวานลง แล้วรับปาก ลิลลี่ดีใจ ณพบ่นว่าเขาไม่มีทางเลือก เพราะเล่นใช้สร้อยเป็นตัวประกันแบบนี้ ลิลลี่ย้ำว่าลูกผู้ชายต้องรักษาสัญญา ณพทวงสร้อย ลิลลี่ลังเลจะให้ดีหรือไม่กลัวเขาบิดพลิ้ว

“งั้นผมขอถอนสัญญา ผมไม่...” ณพพูดไม่ทันจบ เสียงเต็กดังขึ้น

“เจอแล้ว...เพ้ง คุณหนูอยู่นี่” ทั้งเพ้งและเต็กวิ่งเข้ามา

ด้วยสัญชาตญาณ ณพคว้ามือลิลลี่วิ่งหนีลัดเลาะไปอย่างชำนาญทาง จนมาหลบที่ซอกตึก สองคนเหนื่อยหอบ ลิลลี่หัวเราะ “สนุกจังเลย ไม่เคยรู้สึกสนุกและตื่นเต้นเท่านี้มาก่อน”

“คุณเป็นอะไรของคุณ หนีแทบตายกลับหัวเราะร่า แถมบอกสนุกอีก”

ลิลลี่นึกในใจว่าสนุกสิ ไม่ต้องกลับไปแต่งงานกับปีเตอร์แล้ว พอเห็นสายตาณพที่มองมาก็เขินๆ “คุณจะหนีไปไหน คุณสัญญาแล้ว คุณจะเป็นบอดี้การ์ดให้ฉัน”

“ครับเจ้านาย ผมไม่หนี ผมจะไปส่งคุณ พักที่ไหนครับ”

“อย่างฉันน่ะเหรอ ต้องโรงแรมหรูที่สุดในกรุงเทพฯ” ลิลลี่ยิ้มยืด ณพมองเหมือนไม่เชื่อ

แต่พอมาถึงโรงแรมที่ลิลลี่พัก ณพยอมรับว่าหรูจริง ลิลลี่เกรงณพจะไม่เชื่อจึงเปิดกระเป๋าให้ดูเงินจำนวนมากของตนอีกครั้ง

“พอแล้วไม่ต้อง ผมเชื่อว่าคุณรวย...คราวหน้าอย่าเที่ยวไปเปิดกระเป๋าให้ใครเห็นสุ่มสี่สุ่มห้าอีกนะ อันตรายเข้าใจมั้ย” ณพกระซิบหน้าดุ

“ไม่...ฉันไม่เข้าใจ แล้วสุ่มสี่สุ่มห้ามันแปลว่าอะไรล่ะ” ลิลลี่งง แต่ณพหาว่าเล่นลิ้นและนัดว่าพรุ่งนี้เขาจะมาเจ็ดโมงเช้า บวกลบไม่เกินห้านาที ลิลลี่ยังยืนหน้าเหวอๆอยู่อย่างนั้น

ooooooo

ที่มา ไทยรัฐ

No comments:

Post a Comment