Monday, July 4, 2011

ลิลลี่สีกุหลาบ ตอนที่ 3

ครุ่นคิดชั่งใจว่าตัวเองจะทำหน้าที่บอดี้การ์ดได้หรือไม่ ณพลองถามเก่งดู เก่งหยอกเล่นว่า รูปร่างผ่าน พละกำลังพอใช้ หน้าตาพอดูได้ ถ้ามีคนหน้ามืดมาจ้างก็ให้รีบรับไว้ ดีกว่าอยู่เปล่าๆ ณพเครียดบ่นว่าไม่แน่ใจจะปกป้องได้ดีหรือเปล่า เก่งขมวดคิ้วถามว่าเจ้านายอ่อนแอมากเลยหรือ ณพโพล่งออกมาว่า “เขาเป็นผู้หญิงนะโว้ย”

เก่งถามทันทีว่าสวยไหม ณพไม่ตอบ เก่งฟันธงว่าสวยแน่ พอถามว่าได้งานนี้มาได้อย่างไร ณพเดินหนีดื้อๆ เก่งชักสงสัย...

คืนนั้น ดาหวันนัดณพออกมาพบที่ผับที่เคยพบกันครั้งแรก ณพท่าทางเย็นชาในขณะที่ดาหวันพยายามยั่วยวนให้เขากลับมารักกันเหมือนเดิม ณพย้อนถามถึงเดวิด ดาหวัน โวยว่าทีเขาเอาเมียเข้าไปอยู่ในบ้าน แถมยังมาด่าตนอีก ณพงงว่าใคร

“ก็ใครล่ะ มันบอกว่ามันเป็นเจ้าของบ้านของณพ...มันเป็นใคร เป็นเมียณพใช่ไหม”

“มีเหตุผลหน่อยสิ ดาหวัน แล้วก็จำไว้นะครับว่าเรื่องของเราน่ะ มันจบลงแล้ว”

ดาหวันลุกพรวดไม่ยอม แล้วคว้าแก้วน้ำจะสาดใส่ ณพไวกว่าปัดมือเธอ น้ำในแก้วจึงสาดโดนหน้าตัวเอง ร้องกรี๊ดๆ เจ็บใจ เห็นณพเดินไปจะวิ่งตาม แต่เขาขึ้นรถขับออกไปเสียก่อน

วันรุ่งขึ้น เก่งแต่งเครื่องแบบร้อยเอกเต็มยศเตรียมออกไปทำงาน เห็นณพแต่งตัวปอนๆก็นึกอยากรู้ถึงงาน
บอดี้การ์ดของเพื่อน “ถ้าแกลำบากใจมากนัก ฉันเสียสละทำแทนแกเอง”

“ขอบใจแต่ฉันไม่ต้องการผู้ช่วยพระเอกเว้ย...” ณพพูดพลางเดินออกไป

“หวงแบบนี้คงสวยมากสิท่า ระวังจะตกหลุมรักเจ้านายตัวเองนะเว้ย แล้วจะหาว่าไม่เตือน” เก่งตะโกนไล่หลังอย่างรู้ทัน

ระหว่างที่ลิลลี่นั่งรอณพที่ล็อบบี้ เพ้งเข้ามาเพื่อเจรจาขอให้กลับฮ่องกงก่อนที่ปีเตอร์จะจับได้ว่าเธอหนีการแต่งงาน ลิลลี่ไม่แคร์ เพ้งเตือน “หากคุณปีเตอร์รู้ความจริงว่าคุณหนูไม่ได้แค่มาหาเพื่อนเท่านั้น แต่ตั้งใจจะหนีงานแต่งงานด้วย คุณปีเตอร์คงไม่ปล่อยคุณหนูให้เป็นอิสระแน่ ผมมั่นใจ”

“พูดแบบนี้ฉันยิ่งไม่มีทางกลับไปแต่งงานแน่ ฉันต้องการอิสระ เพ้ง นายเข้าใจฉันมั้ย”

เพ้งมองลิลลี่อย่างเห็นใจ ลิลลี่เสียงเครือ “อิสระในการใช้ชีิวิต อิสระที่จะรักใคร ปาป๊าบังคับฉันให้หมั้นกับคนที่ฉันไม่ได้รักไปแล้วครั้งหนึ่ง คราวนี้ฉันไม่ยอมแน่”

ท่าทางลิลลี่มุ่งมั่นจนเพ้งขยาด ก่อนจะถามว่าผู้ชายคนที่เขาพบเป็นใคร ลิลลี่ย้อนถาม

“เพ้งกลัวใช่ไหมล่ะ เพราะเขามีฝีมือ เคยเป็นตำรวจด้วย อย่าทำเป็นเล่นไป ต่อไปเขาจะเป็นบอดี้การ์ดให้ฉัน” ลิลลี่หงุดหงิดลุกจะเดินหนี เพ้งโค้งคำนับ

ณพมาถึงเห็นเข้าพอดี ตัดสินใจเดินไปหา เพ้งมอง อย่างไม่เป็นมิตร พลัน เต็กโผล่เข้ามาจะจับตัวลิลลี่ เพ้งขวางไว้ ณพดึงลิลลี่วิ่งไป เต็กโวยวายใส่เพ้งที่มาขวาง เพ้งเตือน

“นายอยากถูกโยนออกนอกโรงแรมหรือไง เปิดตาตี่ๆของนายดูซะมั่งว่าที่นี่มันที่ไหน”

เต็กมองไปรอบๆเห็นคนพลุกพล่านก็หน้าเจื่อน เพ้งต่อว่าเพราะความใจร้อนของเต็กทำให้ลิลลี่ไม่ไว้ใจหนีไปอีก แทนที่จะเจรจากันได้

หลบมานั่งทานอะไรในห้องอาหารของโรงแรม ณพมองลิลลี่หัวจดเท้า คิดในใจว่าผู้หญิงอย่างว่าแต่ดูมีเกรดจริงๆ อยากรู้ว่าจะแพงขนาดไหน ลิลลี่เงยหน้ามาเห็นสายตาของเขา ก็แปลกใจ ทำไมต้องมองแบบนั้น ณพยิ้มกลบเกลื่อน ชมว่าเธอแต่งตัวสวยเด่น

“ฉันก็สวยแบบนี้ทุกวันล่ะ ขอบใจที่ชม”

“คอเสื้อก็สวยนะ” ณพพูดประชด

ลิลลี่ไม่เข้าใจ “คอเสื้อ...ไม่ต้องชมหรอก แฟชั่นที่เมืองไทยสวยนะ ต่อไปจะแต่งไม่ซ้ำวันเลย”

ณพเหลืออดพูดตรงๆว่ามันโป๊เกินไป ลิลลี่ย้อนถามว่าไม่ชอบหรือ ณพสวนอย่ามายั่วเขา ลิลลี่หัวเราะร่า ณพแปลกใจดูเธอไม่ทุกข์ร้อนที่ถูกตามไล่ล่าอยู่เลย พอทานอาหารเสร็จ ณพจึงขอถามอะไรบางอย่าง ลิลลี่สบตาเขาอย่างตั้งใจฟัง จนณพสะท้านต้องเมินหน้าหลบสายตา

“คือ...เมื่อกี้ผมเห็นคุณคุยกับหนุ่มหน้าตี๋ที่ไล่จับคุณเมื่อวาน ทั้งที่ผมพาคุณหนีแทบตาย แต่วันนี้คุณนั่งคุยกันหน้าตาเฉย มันยังไงกันแน่”

ลิลลี่ใจหายวาบ ครุ่นคิดจะตอบอย่างไรดี ณพถามย้ำอีกครั้ง ลิลลี่ยิ้มหวานเปลี่ยนเรื่องชวนเขาไปหาอาหารไทยอร่อยๆทานมื้อกลางวัน ณพปฏิเสธว่าไม่...

“ทำไมล่ะ คุณเป็นบอดี้การ์ดของฉัน ทำงานให้ฉัน แล้วทำไมถึงขัดคำสั่งของฉัน”

“เรายังไม่ได้ตกลงเรื่องเงื่อนไขการทำงานของผมเลย แล้วคุณก็ยังไม่ได้ตอบคำถามของผมด้วย ตกลงไอ้หน้าตี๋ นั่นมันเป็นใครกันแน่”

“ไว้เราค่อยคุยกันไม่ได้เหรอ ฉันอยากไปจากตรงนี้เต็มทีแล้ว” ลิลลี่ลุกเดินนำออกไป

ณพเดินตามไปอย่างเคืองๆ แต่พอเห็นแผ่นหลังของเธอที่โผล่พ้นเสื้อก็ใจวาบหวิว

ooooooo

ในชุมชนแออัดที่นัดดาอาศัยอยู่กับพ่อ เงินที่เธอขอเบิกมาเพื่อจ่ายค่าเช่าบ้าน ถูกอุทัยพ่อของเธอเมามาย ยื้อแย่งจะเอาไปต่อทุน นัดดาขอร้องอย่างไรก็ไม่ฟัง ไม่ทันไร กิติกับอำนวยคนของพิพัฒน์ก็มาชิงเงินจากอุทัยไปอีก เพราะอุทัยไปกู้เงินพิพัฒน์มายังไม่จ่ายทั้งดอกและต้น

วันต่อมา อาคมค้นหาแหวนของนาถไม่รู้ไปวางไว้ที่ไหน ปทุมวดีเข้ามาช่วยหา ทำทีบ่นว่า อาคมไว้ใจคนในบ้านมากไป ตนคงต้องเป็นหูเป็นตาแทนทุกอย่างแล้ว อาคมหลงไว้ใจ บอกหมดว่าตู้เซฟใบไหนมีของมีค่าอะไรบ้าง ปทุมวดีฟังแล้วตาโตแทบเก็บความโลภไว้ไม่มิด อาคมไม่รู้เลยว่า แหวนนั้น ปทุมวดีขโมยไปและยกให้พิพัฒน์ไปแล้ว

เช้านี้ อาคมจะออกไปพบปีเตอร์ จึงชวนปทุมวดีไปด้วยแต่เธอกลับบอกว่าได้นัดช่างผมคิวทองเอาไว้ กว่าจะนัดได้จองตั้งนาน พออาคมออกไป ปทุมวดีก็ยิ้มเจ้าเล่ห์

“ฉันไม่ได้ไปทำผมอย่างที่แกเข้าใจหรอก ฉันจะไปหาพิพัฒน์ต่างหาก”

พอหันมาชนเข้ากับนวล ปทุมวดีไม่รู้ว่านวลได้ยินที่ตนพูดออกไปหรือเปล่า จึงแกล้งหาเรื่องโทษนวลว่าขโมยแหวนไป นวลย้อนให้ว่า “ก่อนหน้านี้ของไม่เคยหาย แต่พอคุณเข้ามาในบ้าน เกิดมีของหาย แบบนี้จะโทษใครล่ะคะ”

ปทุมวดีโกรธชี้หน้าให้ระวังจะไม่มีที่ซุกหัวนอน ก่อนจะปึงปังเข้าบ้านไปแต่งตัวฉีดน้ำหอมฟุ้งกลับออกมา นวลมองเหยียดๆ พอปทุมวดีถามว่ามองอะไรก็เดินหนี ปทุมวดีตวาด

“ฉันไม่ชอบให้ใครเดินหนีฉัน กลับมานี่...แกมีอะไรก็พูดมาดีกว่า ว่ามานังนวล”

“คุณอยากทราบจริงๆเหรอคะ”

“เออ...อยากรู้ว่าขี้ข้าอย่างแกจะพูดอะไร”

นวลเชิดหน้า “สามีออกจากบ้านไปตอนเช้า ไม่กี่นาทีต่อมา คุณศรีภรรยาก็แต่งตัวออกไปข้างนอก ภรรยาที่ดีเขาไม่ทำยังงี้หรอกค่ะ ไม่เหมือนคุณนาถสักนิด”

ขาดคำ ปทุมวดีก็ตบหน้านวลจนเซไป สร้อยตกตะลึง ปทุมวดีโวยอย่ามาเอาตนไปเปรียบเทียบกับคนตาย แล้วไล่ให้นวลไปรับใช้นาถในนรก ปทุมวดีออกไปด้วยความหงุดหงิด สร้อยเข้ามาถากถางนวลไม่น่าพูดให้เจ็บตัว น่าจะลอยตามน้ำไป นวลโต้ว่าตนไม่ใช่กอสวะอย่างสร้อยที่ลอยเท้งเต้งไปมา สร้อยโกรธประกาศเป็นคนละพวกกัน นวลถอนใจอยากให้ณพกลับมา

ในขณะที่ณพพาลิลลี่มาร้านอาหารไทย เธอตื่นตาตื่นใจชี้รูปในเมนูสั่งเสียหลายอย่าง พอจัดมาวางก็ชมว่าหน้าตาสวยน่ารับประทาน ณพสงสัยว่าเธอชอบทานเผ็ดหรือ

“เผ็ดเหรอ ฉันเห็นในรูปมันสวยดี ก็เลยสั่งมาดูว่าของจริงจะสวยเหมือนในรูปหรือเปล่า”

“บางทีรูปสวย แต่รสชาติไม่ถูกปากก็ได้”

“ไม่ถูกปากได้ไง กินอะไรก็ต้องเอาเข้าปาก ต้องถูกปากไม่ใช่เหรอ...คุณนี่อารมณ์ขันนะ”

“ผมหมายถึงมันไม่อร่อย”

ลิลลี่ยิ้มเจื่อนๆ พยายามคิดว่านภาเคยสอนคำนี้ตนหรือเปล่า ณพบอกให้ลองทานดู ลิลลี่ตักเข้าปากคำโต แทบสำลักเพราะมันเผ็ดมาก ณพรีบส่งแก้วน้ำให้ดื่ม และตำหนิว่าทานเผ็ดไม่เป็นยังสั่งมาอีก ณพเซ็งเปิดเมนูสั่งอาหารรสไม่เผ็ดมาให้ใหม่...ลิลลี่ทานเสร็จชมว่าอร่อยมาก

“อิ่มแล้วทีนี้ตอบผมได้หรือยังว่าไอ้ตี๋ที่วิ่งไล่คุณวันก่อนเป็นใคร แล้วทำไมวันนี้คุณถึงพูดดีกับเขา” ณพไม่ลืมที่จะถาม

ลิลลี่นิ่งเงียบ ณพจึงว่าถ้าไม่บอกเขาจะลาออก ลิลลี่ตกใจปาดเหงื่อ “คนที่...ที่คุยกับฉันเขาชื่อเพ้ง ส่วนคนที่เข้ามาจับชื่อเต็ก สองคนนั่น...เขาจะจับฉันกลับไป...ไป...ไปหา...พ่อ...พ่อน่ะ เพ้งกับเต็กเป็นคนของพ่อฉันเอง”

ขณะเดียวกัน เพ้งกับเต็กมาเจอปีเตอร์นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงล็อบบี้ ทั้งสองรีบหลบ เต็กสงสัยว่าปีเตอร์นัดกับลิลลี่ จึงลองเข้าไปถาม ปีเตอร์หน้าเครียดวางอำนาจใส่ทันทีว่า ถ้าทั้งเพ้งและเต็กหาตัวลิลลี่กลับไปแต่งงานกับเขาไม่ได้ เขาจะให้เถ้าแก่จางไล่ออกทั้งสองคน พลันทวีเดินเข้ามากับอาคม ปีเตอร์รีบเข้าไปทักทาย...เต็กกับเพ้งหันมาปรึกษากัน เต็กจะเอาตัวลิลลี่กลับไปให้ได้เพราะกลัวโดนไล่ออก แต่เพ้งเป็นกังวลยิ่งเห็นปีเตอร์วางอำนาจ ยิ่งเป็นห่วงลิลลี่

ooooooo

ลิลลี่กับณพเดินกันอยู่บนถนนสายหนึ่งย่านธุรกิจ จู่ๆณพก็ดึงลิลลี่เข้าซอกตึก เธอตกใจคิดว่าณพจะ ทำมิดีมิร้าย ร้องให้ปล่อย ณพว่าอย่าหลงตัวเองไปเลย เขาไม่ปล้ำหรอก

“งั้นก็ปล่อยฉันสิ นายจะบ้าเหรอ”

“ใช่ บ้า ถ้าคุณยังไม่บอกความจริงกับผม” ณพยังไม่ลืมเรื่องที่ลิลลี่คุยกับเพ้ง

“คุณไม่ไว้ใจฉันเหรอ...”

“ก็ใช่สิ เผื่อคุณเป็นแก๊งอาชญากรที่แฝงตัวมาในคราบของโสเภณีกับพวกแมงดาก็ได้”

ลิลลี่นิ่ง ณพเบียดตัวเข้าหาเพราะมีคนเดินผ่านเข้ามา เขากระซิบ “อย่าทำอะไรผิดสังเกตนะ ไม่งั้นผมเรียกตำรวจจับคุณแน่”

ลิลลี่ผลักอกณพเมื่อคนเดินผ่านไปแล้ว “จับฉันเรื่องอะไร...”

“ก็ถ้าขายตัวมันก็ผิดกฎหมาย บอกมาสิว่าที่คุณบอกว่าคุณหนีพ่อน่ะ ใช่พ่อเล้าหรือเปล่า”

ลิลลี่ขมวดคิ้ว สงสัยพ่อเล้าแปลว่าอะไร นภาไม่เคยสอน แต่ตนคงต้องยอมรับไปก่อน ณพถามอีกครั้ง ลิลลี่สะดุ้ง “ใช่...ใช่ ฉันหนีพ่อเล้ามา”
ณพถอยห่างแล้วมองลิลลี่จนทั่วร่าง ลิลลี่มองตามแล้วผลักเขาอย่างแรงโวยว่ามองอะไร

“ก็สวยยังงี้ เขาถึงหวง สงสัยว่าคุณจะทำเงินให้เขาได้เยอะเลยสินะ ถึงได้ส่งคนออกตามล่าคุณ ให้คุณต้องหนีหัวซุกหัวซุน เขาบังคับคุณใช่มั้ย”

“ใช่ พ่อบังคับฉัน...” ลิลลี่เข้าใจไปคนละอย่าง

ณพมองลิลลี่อย่างเห็นใจ นึกภาพลิลลี่แต่งตัววาบหวิวถูกพ่อเล้าบังคับให้รับแขก เขาเริ่มสงสารเธอ “โชคดีนะที่คุณหนีได้สำเร็จ แต่ก็อย่าวางใจ ผมจะเอาตำรวจลากคอไอ้แมงดาสองตัวให้ได้ คุณจะได้ปลอดภัย”

ลิลลี่พยายามคิดว่าแมงดาคือใคร ณพมองเธอเห็นไม่มีร่องรอยบาดแผล จึงถามว่าโดนบังคับอย่างไร ลิลลี่เออออไปว่า “บังคับ...ใช่ ปาป๊าบังคับฉัน”

“อ๋อ เรียกพ่อเล้าว่าป๋าเหรอ”

“ฉันเรียกพ่อว่าป๊ะป๋าแบบคนจีนไง ฉันไม่อยากถูกบังคับก็เลยหนีมา” ลิลลี่เศร้าลง

“แล้วทำไมไอ้สองคนนั่นมันถึงยอมคุยกับคุณ ไม่จับคุณส่งปะป๊าของคุณล่ะ”

“ฉันก็ใช้วิธีเจรจาไง เผื่อว่าเขาจะเลิกตามฉันซะที”

ณพแปลกใจว่าแมงดาสองคนนั่นจะใจดีเชียวหรือ แต่ถ้าเขาไม่ช่วยเธอไว้เธอคงโดนลากกลับซ่องไปแล้ว ลิลลี่ยิ่งทำหน้างงว่าซ่องแปลว่าอะไร

“อ้าว ก็ที่ที่คุณทำงานไง พวกมันยอมคุณ นี่แสดงว่าคุณคงเป็นคนพิเศษ ค่าตัวสูงสินะ”

“พูดอะไรของคุณน่ะ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ แล้วก็พาฉันไปเที่ยวให้สบายใจ”

“เที่ยวขณะที่หน้าสิ่วหน้าขวานยังงี้เนี่ยนะ”

ลิลลี่เกาหัวไม่รู้จักคำนี้ ณพชักฉุนที่เธอไม่เข้าใจสำนวนไทยบ้างเลย แล้วว่าป่านนี้ คนที่สอนภาษาไทยเธอคงร้องไห้ขี้มูกโป่งหรือโดดน้ำตายไปแล้ว ลิลลี่พาซื่อ “ครูฉันชื่อนภา ชื่อจริงจำยากมาก ฉันจำได้แค่นภา นี่ฉันก็ตามหาครูของฉันอยู่นะ แต่นภาคงไม่กระโดดน้ำตายหรอก”

ณพเกาหัวบ้างกับความไม่เข้าใจภาษาของเธอ แล้วเลยเปลี่ยนเรื่องถามว่าอยากไปเที่ยวไหน ลิลลี่รู้สึกร้อนอยากไปอยู่สถานที่เย็นๆ ณพอดแขวะไม่ได้ว่า “ใช่ซี้ พวกเสี่ยรวยๆมันไม่ปล่อยให้คนสวยๆอย่างเธอลำบากหรอก ต้องห้องแอร์ตลอด”

ลิลลี่ไม่ทันฟังเดินนำลิ่วไปก่อน แล้วหันมาร้องเรียกให้เขาตามมาไวๆ ณพเผลอยิ้มสุขใจ

ยังมีคนที่เป็นห่วงลิลลี่มากอีกคนคือเง็ก แอบโทร.ขู่เพ้งว่าตนรู้ เพ้งรักลิลลี่มาตั้งแต่เด็กๆแต่ตนจะไม่บอกใคร ที่โทร.มาเพราะอยากให้เพ้งช่วยปล่อยคุณหนูของตนให้ตามหารักแท้ให้เจออย่างที่ตั้งใจก่อน เง็กวางสาย เถ้าแก่จางเดินมาพอดี เง็กแกล้งทำเป็นร้องเพลงงิ้วโหยหวน

ในห้างสรรพสินค้า ลิลลี่ช็อปปิ้งซื้อของมากมาย ให้ณพช่วยถือ เขากลับอ้างว่าเธอจ้างเขามาเป็นบอดี้การ์ดไม่ใช่คนถือของ ลิลลี่งอนสะบัดหน้าถือเองก็ได้ ณพขำคว้าถุงมา มือจับโดนมือลิลลี่ เธอสะดุ้งปล่อยของทิ้งหมด ณพหัวเสียก้มเก็บและบ่นขายตัวมากี่ปีถึงมีเงินมากแบบนี้ ลิลลี่ตอบว่าปกติซื้อมากกว่านี้ แค่นี้ยังน้อย ว่าแล้วก็เดินเข้าไปในร้านเสื้ออีกร้านหนึ่ง ณพเดินตาม

ระหว่างที่เลือกเสื้อผ้าอยู่ นัดดาเข้ามาในสภาพหน้าตาบอบช้ำเพราะโดนกิติกับอำนวยทำร้ายตอนแย่งเงินจากอุทัย เจ้าของร้านตกใจให้กลับไปพักผ่อนหายแล้วค่อยมาทำงาน ณพมองอย่างสงสัยตามสัญชาตญาณตำรวจ

พอกลับมาที่โรงแรม ณพก็ส่งของทั้งหมดให้ลิลลี่ถือเองแล้วลากลับ ลิลลี่รีบบอกว่าไม่ต้องกลับ ให้พักที่โรงแรมนี้ ณพทำหน้าตกใจ

“อย่าคิดมาก ฉันจะเปิดห้องข้างๆให้คุณ คุณจะได้พักสบาย ถ้ามีอะไรฉันจะได้ขอความช่วยเหลือคุณได้”

“ทำไมถึงไว้ใจผม...คุณไม่น่าไว้ใจคนง่ายยังงี้นะ อันตราย”

“ฉันก็มีสมอง ดูออกว่าคนแบบไหนมีพิษมีภัย หรือว่าไม่มี อย่างคุณฉันว่าคุณเป็นคนดี”

“ยังไงผมต้องกลับก่อน”

“คุณจะหนีอีกแล้วเหรอ คุณสัญญาแล้วนะว่าจะไม่หนีไปไหน คุณจะทำงานให้ฉัน”

“เปล่า...ผมต้องกลับไปเก็บเสื้อผ้าก่อน”

ลิลลี่จะตามไปด้วย ณพห้ามเพราะเป็นบ้านชายโสด ลิลลี่จึงควักเงินให้จำนวนหนึ่ง เป็นค่าจ้างล่วงหน้า ให้เขาเอา ไปซื้อเสื้อผ้าดีๆใส่ แล้วพรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าบวกลบไม่เกินห้านาทีเจอกัน ณพงงก้มมองสารรูปตัวเองว่าเขาดูจนขนาดนั้นเชียวหรือ...ลิลลี่ไปจองห้องติดกับห้องตนไว้ให้

พอมาถึงห้องพบเพ้งยืนรอ ลิลลี่จะเดินหนี เพ้งขอร้องให้กลับฮ่องกงและเตือนอย่าไว้ใจผู้ชายคนนั้น ลิลลี่เข้าใจความหวังดีของเพ้ง ขอเวลาสองวัน แต่พอเพ้งกลับไป ลิลลี่ ก็บ่นคนเดียว

“สองวัน เชอะ ฉันไม่มีวันกลับกับนายหรอกเพ้ง แค่นี้ปีเตอร์ก็ยังตามมาวุ่นวายกับฉันแล้ว ขืนแต่งไป ฉันต้องเหมือนตกนรกแน่” ลิลลี่คิดถึงณพว่าต้องช่วยได้...

ooooooo

พอเห็นเงินที่อำนวยกับกิติทวงหนี้จากอุทัยมาได้ไม่กี่บาท ปทุมวดีถามจะเอาไปยาไส้อะไรได้ พิพัฒน์จึงแนะให้เธอรีดเงินจากอาคมมามากๆ ด้วยการตามติดทุกฝีก้าว ปทุมวดีจึงโทร.ออดอ้อนอาคมว่าคิดถึง เขาอยู่ที่ไหน

“คิดถึงก็มาหาสิ ตอนนี้ผมอยู่กับมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง คนที่จะมาเจรจาธุรกิจกับเราน่ะ มานะ...ผมจะรอ” อาคมชวนปทุมวดีให้ตามมาที่สนามไดรฟ์กอล์ฟ...

ระหว่างนั้น อาคมนั่งพัก เขาบอกให้ปีเตอร์กับทวีรู้ว่าภรรยาจะตามมา ไม่นานปทุมวดีซึ่งมาพร้อมกับพิพัฒน์แต่แยกกันเข้ามาเพื่อไม่ให้คนสงสัย เดินกรีดกรายส่งเสียงหวานกับอาคม ปีเตอร์มองด้วยสายตาชื่นชม ไม่ทันไร เธอก็ทำเป็นตกใจที่เห็นพิพัฒน์เดินมา อาคมทักว่า

“วันนี้วันอะไรเนี่ย ถึงได้มาพร้อมหน้ากันได้” อาคมแนะนำให้ทุกคนรู้จักกัน

ปีเตอร์สบตาปทุมวดีอย่างเปิดเผยว่าพึงพอใจในตัวเธอ พิพัฒน์สังเกตเห็น ปีเตอร์เสนอให้ไปฉลองกัน เขาเป็นเจ้ามือเองที่ห้องอาหารจีนของโรงแรมที่เขาจะเข้าพัก ปีเตอร์ขอตัวไปจัดการจองห้อง ปทุมวดีขอไปเข้าห้องน้ำ พิพัฒน์ตามไป ปทุมวดีคิดว่าเขาจะหึงรีบเตือนไม่ต้องห่วงเพราะปีเตอร์รู้ว่าตนเป็นภรรยาของอาคม แต่พิพัฒน์กลับบอกว่า

“ผมน่ะคิดใหม่แล้ว เลิกหึงคุณ แล้วก็ยอมให้ไอ้ปีเตอร์มันหลงคุณจนโงหัวไม่ขึ้น บางทีเราอาจจะได้เหยื่อเพิ่มขึ้นอีกรายก็ได้”

“พัฒน์คิดเหมือนปทุมเลยค่ะ” สองคนยิ้มให้กันอย่างรู้ใจ

พอมาเช็กอิน พนักงานบอกปีเตอร์ว่าห้องข้างๆลิลลี่มีคนจองแล้ว ปีเตอร์ถามว่าใคร พนักงานไม่สามารถบอกได้ ปีเตอร์ประกาศตัวว่าเป็นคู่หมั้นของลิลลี่มาจากฮ่องกง พนักงานจึงจัดการเปิดห้องบนชั้นเดียวกัน แต่คนละปีกให้...ปีเตอร์เดินกลับมา พิพัฒน์กระซิบกับปทุมวดี

“เหยื่อมาแล้ว หว่านเสน่ห์ให้มันหลงคุณจนโงหัวไม่ขึ้นไปเลย” พิพัฒน์รีบเดินหนี

ปทุมวดีทำเป็นออกมาจากห้องน้ำแล้วยิ้มหวานเดินเข้าไปควงแขน ปีเตอร์สบตาอย่างเจ้าชู้ปะเหลาะไม่คิดว่าอาคมจะมีภรรยาสวยอย่างนี้ เขามีโอกาสจะพบเธออีกไหม

“ทุกครั้งที่คุณมาเมืองไทย คุณโทร.หาฉันได้ตลอดเวลา...”

“แล้วสามีคุณล่ะ”

“คงไม่ใช่อุปสรรคนักหรอก” ปทุมวดียิ้มเย้ายวน แล้วต่างคนต่างเดินเข้าห้องอาหารไป

ooooooo

คืนนั้น ณพเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าบอกเก่งว่าเขาต้องไปเฝ้าเจ้านาย เก่งกระเซ้าระวังรักแท้แพ้ใกล้ชิด ณพว่าไร้สาระ เขาฝากรถและฝากให้ไปดูแลคอนโดฯของเขาด้วย

วันรุ่งขึ้น นัดดาถูกกิติกับอุทัยตามทวงเงินอีก พอไม่มีก็ปลดเอานาฬิกาของเธอไป เก่งกับลูกน้องผ่านมาเจอจึงไล่จับแต่สองคนหนีไปได้ เก่งให้นัดดาไปแจ้งความแต่เธอไม่ยอมไป...

ลิลลี่ออกจากลิฟต์มาเจอปีเตอร์เข้าพอดี เขาบอกเธอว่าเขาย้ายมาพักที่นี่เพื่อดูแลเธอ ลิลลี่หน้าเบ้หาทางหลบมารอณพ เธอกำลังบ่น “ทำไงดี...ปีเตอร์ต้องวุ่นวายกับเราแน่ๆ นายณพก็ยังไม่มา คอยดูนะ ถ้ามาช้ากว่าห้านาทีล่ะก็ ฉันจะหักเงินเดือน”

“ใจคอโหดร้าย....” เสียงณพดังขึ้นด้านหลัง

ลิลลี่หันมา เห็นณพใส่ชุดดูหล่อเท่ไม่เบา เธอชมว่าดี แล้วฉวยมือเขาจะออกไป ณพร้องว่าเขามีกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตอีก ลิลลี่จึงเรียกพนักงานมาแล้วจ่ายเงินให้ร้อยเหรียญ ให้เอากระเป๋าไปไว้ห้องที่เธอเปิดใหม่ ณพตาโต ทิปตั้งร้อยเหรียญ

เพ้งกำลังจะออกจากห้องต้องชะงัก เมื่อเห็นปีเตอร์กำลังเข้าห้องตรงข้าม เต็กเห็นว่าดีจะได้ช่วยกันเอาตัวลิลลี่ กลับ เพ้งถอนใจสงสารลิลลี่

วันนี้ณพขับรถยนต์มาด้วย เขาเปิดประตูให้เธอขึ้น ลิลลี่เปรย “รวยเหมือนกันนี่”

“เปล่า รถเช่ามา จ่ายเป็นรายวัน ผมคิดว่าประหยัดกว่านั่งแท็กซี่ อีกอย่างผมไม่อยากหิ้วของที่คุณซื้อมากมายโบกแท็กซี่ริมถนนอีก”

“มีเหตุผลดีนี่ เหมาะที่จะเป็นบอดี้การ์ดของฉัน”

ณพบ่นว่าเธอคงไม่ไปช็อปปิ้งอีกนะ ลิลลี่ย้อนถามว่าไม่ไปแล้วจะไปที่ไหน ณพจึงพาไปเที่ยววัดต่างๆที่สวยงาม ทำเอาลิลลี่ตื่นตาตื่นใจ ลิลลี่ไหว้แบบคนจีน ณพนึกในใจ

“อ้อ เป็นโสเภณีข้ามชาติด้วย นี่คงโดนทารุณมากจนต้องหนีข้ามแดนมาเมืองไทย”

ลิลลี่ไหว้พระอธิษฐานขอให้ตนได้พบรักแท้ และไม่ต้องแต่งงานกับปีเตอร์ ณพกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ ลิลลี่เห็นว่าสวยดีจึงทำบ้าง ณพต้องสอนการไหว้แบบของผู้หญิงให้...จากนั้น ณพก็พาเธอมานั่งศาลาริมน้ำ ลิลลี่เห็นวัดอรุณฝั่งตรงข้ามก็ชมว่าสวยงามมาก ณพจึงเล่าเรื่องวัดละแวกนั้นให้ฟัง พลันมีเสียงตะโกนว่าเด็กจมน้ำ ณพรีบโดดลงไปช่วย ลิลลี่ประทับใจมากแต่อดหัวเราะไม่ได้ ที่เขาอุตส่าห์แต่งตัวมาหล่อ ต้องมาเปียกปอน เธอจับมือเขาไว้แล้วชม

“ใครบอกว่าคุณเป็นบุรุษที่ไม่สุภาพ คุณน่ะ สุดยอดสุภาพบุรุษเลยนะ แล้วฉันก็เลือกคนมาเป็นบอร์ดี้การ์ดไม่ผิด...เดี๋ยวนะ” ลิลลี่ดันณพให้มานั่ง แล้วเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดผมให้เขา ณพช้อนตามองลิลลี่ เห็นว่าเธอทำอย่างเป็นธรรมชาติไม่ได้เสแสร้ง...

นัดดาเอาแบบเสื้อที่ตนดีไซน์มาส่งให้เจ้าของร้าน เธอชอบมากและเลยถามถึงเมื่อวานว่าไปโดนอะไรมา นัดดาไม่อยากเล่า ขอตัวไปทำงานต่อ...อุทัยพอสร่างเมาก็คิดได้ว่าทำให้ลูกเดือดร้อน เพื่อนบ้านเห็นนั่งกลุ้มจึงชวนไปเข้าบ่อนไฮโล อุทัยไม่อยากเล่นนั่งดูเฉยๆ โชคร้ายที่ตำรวจบุกมาจับ จึงพลอยโดนเข้าคุกไปด้วย นัดดาตามมาโรงพัก เจอเก่งอีกครั้งจึงขอร้องให้ปล่อยพ่อเพราะเชื่อว่าพ่อไม่ได้เล่นอย่างที่บอก แต่เก่งให้ประกันตัวไปตามกฎหมาย นัดดาไม่มีเงินพาลโกรธเก่ง หาว่าทำร้ายคนที่ด้อยกว่า

ooooooo

กลับจากเที่ยววัด ลิลลี่กับณพขึ้นลิฟต์มา ต้องตกตะลึง เพราะเจอเพ้งกับเต็กยืนอยู่ ลิลลี่ให้ทั้งสองคนหลีกไป เต็กจะเข้าใส่ ณพขยับตัวเตรียมรับมือ เพ้งรั้งเต็กไว้ ลิลลี่สั่งเสียงเฉียบ “หยุด จำไว้อย่ายุ่งกับฉันอีก ผู้ชายคนนี้เป็นบอดี้การ์ดของฉัน อย่าทำอะไรให้เขาโมโห”

พูดจบ ลิลลี่เดินไป ณพมองเพ้งกับเต็กอย่างดูเชิงกันก่อนจะตามเธอไป เต็กหันมาแขวะเพ้งว่า เป็นอย่างไรล่ะ วิธีเจรจา เพ้งบ่นไม่คิดว่าลิลลี่จะไว้ใจณพขนาดนี้

คืนนั้น ขณะที่ลิลลี่นอนแช่ในอ่างน้ำสบายๆ ปีเตอร์มาเคาะประตูเรียก ลิลลี่คิดแผนได้บอกเขาไปว่าขออาบน้ำก่อนค่อยกลับมาใหม่ ตนอาบนานจะไม่ล็อกประตูห้อง เขากลับมาก็เปิดเข้ามาเลย ปีเตอร์ใจพองโตเข้าใจว่าลิลลี่ให้ท่า พอปีเตอร์ไปแล้ว ลิลลี่ก็โทร.ตามณพทันที

“อุ๊ย...ไปตอนนี้ไม่ได้หรอกครับ ผมกำลังโป๊อยู่” ณพอาบน้ำอยู่เช่นกัน

“ไม่ได้ นี่เป็นคำสั่ง ฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย ช่วยฉันทีนะณพ”...ณพตกใจ...

หลังจากนั้น ปีเตอร์ผลักประตูเข้ามาในห้องลิลลี่ ได้ยินเสียงน้ำ เข้าใจว่าเธอยังอาบน้ำอยู่จึงย่องเข้าไป เห็นคนสวมเสื้อคลุมอาบน้ำ มีผ้าโพกผมนั่งหันหลังอยู่ เขาเข้าไปสวมกอดและระดมจูบตั้งแต่หัวไหล่ไปจนต้นคอ ณพร้องว้าย...หันหน้ามาทาแป้งขาววอก ปีเตอร์สะดุ้ง ณพใช้จังหวะนั้นถีบปีเตอร์กระเด็น ปีเตอร์ตกใจคิดว่าตัวเองเข้าห้องผิดรีบวิ่งออกไป ณพหัวเราะร่ากำลังจะออกจากห้อง เห็นกระเป๋าเสื้อผ้าวางอยู่ ก็จำได้ว่าของตน จึงลองเปิดดู

“เราต้องสับกระเป๋ากับยัยนี่แน่ๆเลย ถ้าขืนไปต่อว่าตอนนี้ ยัยนี่จะรู้ทันทีว่าเราไม่ใช่คนจน คนจนอะไรวะจะไปเมืองนอกเมืองนาจนสลับกระเป๋ากับเขาเข้า เวร...ทำไมโลกมันกลมยังงี้วะ หรือว่า...บุพเพสันนิวาส...” ณพเก็บกระเป๋าตามเดิมแล้วนึก ถ้าเขาชอบผู้หญิงคนนี้ วิญญาณแม่จะภูมิใจไหม เขาถอนใจ “โว้ย...ทำไมมันยุ่งเหยิงยังงี้วะ เราต้องรู้ให้ได้ว่า ยัยนี่เป็นใครกันแน่ หล่อนยิ่งบอกว่ามาจากเมืองจีน บางทีอาจเป็นนางนกต่อของพวกแก๊งข้ามชาติก็ได้”

ณพซ่อนบ๊อกเซอร์ไว้ด้านหลังกลับมาที่ห้อง ลิลลี่ นั่งรออยู่ เธอรีบถามว่าปีเตอร์ทำอะไรหรือเปล่า ณพตอบว่าทำ ลิลลี่ตาโต “หา...อย่าบอกนะ ว่านายเสียตัวให้ปีเตอร์แล้ว”

ณพถามถ้าใช่จะทำไม ลิลลี่ว่าจะได้แสดงความยินดีที่ค้นพบตัวเอง น่าภูมิใจ ณพส่ายหน้า ลิลลี่จะกลับห้อง ณพขวางไว้แล้วบอกว่าเขายังไม่ได้คุยเงื่อนไข ลิลลี่ทำหน้างง

“ผมเคยบอกคุณแล้ว ทำงานต้องมีข้อตกลง ถ้าคุณยอมรับ ผมก็จะทำงานให้ แต่ถ้าไม่ ผมก็ขอลาออก ข้อหนึ่ง ผมมีสิทธิ์บอกเลิกเป็นบอดี้การ์ดได้ตลอดเวลา สอง คุณต้องเชื่อฟังผม หากไม่เชื่อผมก็จะลาออก ผมตกลงทำงานกับคุณแล้ว เพราะฉะนั้น ขอสร้อยแม่ผมคืนด้วย”

ลิลลี่อ้าปากจะแย้งหลายครั้งแต่ไม่ทัน พอมีโอกาสก็โต้ว่า “สองข้อแรก โอเค ฉันยอมรับได้ เพราะฉันบังคับคุณทำงานเอง แต่เรื่องสร้อยของคุณ ฉันไม่คืน ฉันจำเป็นต้องมีหลักประกันคุณจะได้ไม่หนีฉันไปอีก”

ลิลลี่จะเดินไป ณพกอดเธอไว้ด้านหลัง ลิลลี่ตัวสั่นบอกให้ปล่อย ณพว่าเขาไม่ได้พิศวาสเธอหรอก แต่ให้คุยกันให้รู้เรื่องก่อน ลิลลี่ขอร้องเป็นสุภาพบุรุษต้องปล่อยก่อน ณพจำต้องปล่อย ลิลลี่หันมายิ้ม จิกตายั่วจนเขาสะท้านไปทั้งตัว ก่อนจะออกไป ณพเจ็บใจที่เธอถือไพ่เหนือกว่า...

ooooooo

พิพัฒน์เล่นการพนันเสียจำนวนมาก จึงโทร.ขอเงินจากปทุมวดี นวลแอบได้ยิน ปทุมวดีขู่ให้ปิดปากให้สนิทไม่อย่างนั้นตาย...ปทุมวดีทำทีเป็นร้องไห้กับอาคม ว่าญาติสนิทที่อยู่เชียงใหม่ไฟไหม้บ้านหมดตัว ขอให้ช่วยสักสองแสน ตนสงสาร อาคมหลงเชื่อบอกจะจัดการให้

วันต่อมา ลิลลี่กับณพมาออกกำลังกายที่ห้องฟิตเนส ลิลลี่ขอกลับห้องก่อน ณพห่วงบอกให้รอ แต่เธอกลับว่า ในโรงแรมอย่างนี้ ไม่มีใครกล้าทำอะไรตนหรอก ไม่ทันไร พอลิลลี่เดินผ่านพุ่มไม้ก็โดนคนเอามือปิดปากลากตัวไป ลิลลี่ดิ้นรนต่อสู้

“เพ้งเองครับคุณหนู อย่าตกใจ ผมจะไม่ทำอะไรคุณหนู ถ้าสัญญาว่าจะไม่เสียงดัง”

ลิลลี่นิ่งคิดแล้วพยักหน้าหงึกๆ พอเพ้งปล่อยมือลิลลี่ก็ตบเขาฉาด พูดอย่างตัดพ้อ ว่าตนไว้ใจเขามากที่สุด อย่าทำแบบนี้อีก เพ้งขอโทษเขาไม่มีทางเลือก เพ้งขอร้องให้เธอกลับบ้าน ให้เห็นแก่เถ้าแก่จางบ้าง ลิลลี่ถาม เพ้งก็รู้ว่าปีเตอร์เป็นคนอย่างไร แล้วยังให้ตนไปแต่งงานด้วยหรือ พลันเห็นณพวิ่งมา ลิลลี่ผลักเพ้งอย่างแรงเข้าหลังพุ่มไม้ ไม่ให้ณพเห็น...

ooooooo

ที่มา ไทยรัฐ

No comments:

Post a Comment