ในโรงแรมหรูของฮ่องกงยามราตรี มีงานเลี้ยงการเซ็นสัญญาทางธุรกิจ ปีเตอร์กับคู่ค้านั่งอยู่บนเวที หญิงสาวแต่งชุดกี่เพ้ายืนอยู่ด้านหลัง คอยอำนวยความสะดวก แขกที่มาร่วมแสดงความยินดี ล้วนเป็นคนมีระดับ รวมทั้งเถ้าแก่จาง มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทเงินทุนชื่อดัง และยังมีกิจการฟาร์มเลี้ยงม้าและอื่นๆอีกมาก
“ในฮ่องกงไม่มีใครเหมือนปีเตอร์หรอก ลิลลี่เห็นมั้ย จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด” เถ้าแก่จางกระซิบบอกลิลลี่
“ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเราเลยนี่คะปาป๊า”
“ไม่เกี่ยวได้ไง เขาเป็นคู่หมั้นของแกนะลิลลี่”
ลิลลี่หน้าง้ำ ไม่พอใจ เพราะถูกบังคับให้หมั้นหมาย บนเวที ปีเตอร์เปิดแชมเปญ จุกแชมเปญกระเด็นออกเกิดเป็นฟองฟู่ แขกในงานปรบมือเกรียวกราว ปีเตอร์โค้งคำนับพร้อมกับคู่ค้า
“ผมขอขอบคุณทุกท่านที่มาเป็นสักขีพยานของผม ในวันนี้ การเซ็นสัญญากับมิตรคู่ค้าจะยิ่งทำให้อาณาจักรธุรกิจของผมขยายพรมแดนไปอย่างกว้างขวาง และผมขอมอบ ความยิ่งใหญ่ในวันนี้ให้แก่คู่หมั้นของผม เธอเป็นลูกสาวของเถ้าแก่จาง นักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่อีกคนหนึ่งของเกาะฮ่องกง...ผมขอแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับลิลลี่ยอดรักของผม...” ปีเตอร์ผายมือออกไป
แล้วปีเตอร์ก็ต้องหน้าซีด เช่นเดียวกับเถ้าแก่จางที่ไม่รู้ว่าลิลลี่หายไปไหนแล้ว เถ้าแก่จางมองไปที่เพ้งกับเต็ก ลูกน้องคนสนิท ทั้งสองรีบผละออกไปตามหา ปีเตอร์กล่าวขอโทษกับแขกที่เขาไม่ได้นัดหมายกับลิลลี่ไว้ก่อน เธอคงออกไปห้องน้ำ เถ้าแก่จางช่วยเออออไปด้วย
เพ้งกับเต็กตามออกมาเห็นลิลลี่กำลังจะไปที่รถ จึงรีบมาขวางเชิญให้กลับเข้าไปในงาน
“ฉันจะกลับบ้าน ไปบอกป๊าด้วยว่า ถ้าอยากให้ฉันเข้าไปในงานก็ให้ทำศพฉันด้วยคืนนี้”
เพ้งกับเต็กหน้าเหวอ ลิลลี่ขึ้นรถขับพรืดออกไป เธอมักจะเอาแต่ใจตัวเองเสมอ ไม่ยอมให้ใครบังคับ...เพ้งกับเต็ก รายงานเถ้าแก่จาง พอกลับมาบ้าน เง็กคนสนิทของลิลลี่ยืนขวางหน้าห้องไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนลิลลี่ตามคำสั่ง เถ้าแก่จางไม่พอใจจะไล่เง็กออก เง็กหน้าเหยถอยให้เถ้าแก่จางเข้าไป เถ้าแก่จางเห็นยาเม็ดตกอยู่เกลื่อนพื้นห้องก็ตกใจร้องไห้โฮ
“เพ้ง ไอ้เพ้ง ไอ้เต็ก ลิลลี่กินยาตาย...ฮือๆลิลลี่ลูกพ่อ...”
เพ็งกับเต็กวิ่งเข้ามา เถ้าแก่จางให้ทั้งสองอุ้มลิลลี่ไปหาหมอ สองคนปรี่เข้ามาข้างเตียง พลัน ลิลลี่ลุกพรวดขึ้นมา ทุกคนผงะตกใจ
“ลิลลี่ยังไม่เป็นอะไร แต่นี่คือคำขู่ ถ้าปาป๊าขืนบังคับลิลลี่อีก ลิลลี่จะกินยาตาย ก่อนกินจะแก้ผ้าด้วย”
“หา...ไม่เอานะลิลลี่ น่าเกลียด”
“ก็ดีสิ ปาป๊าจะได้อับอายคนทั้งเกาะฮ่องกง”
“ปีเตอร์เขาไม่ดีตรงไหน ทั้งหล่อทั้งรวย ผู้หญิงฮ่องกงอิจฉาแกทั้งเกาะ ที่แกได้เป็นเจ้าสาวของเขา”
“ลิลลี่ไม่ได้รักเขาค่ะ ปาป๊า ปีเตอร์เป็นเพื่อนของลิลลี่ ไม่ใช่คนรัก”
เถ้าแก่จางให้เธอเปลี่ยนความคิดจากเพื่อนมาเป็นคนรัก ลิลลี่ทำไม่ได้ เถ้าแก่จางตัดบทบอกว่า ซินแสให้ฤกษ์ มาแล้ว เดือนหน้า อย่างไรเสียก็ต้องแต่ง ลิลลี่สะบัดหน้าอย่างไม่พอใจ
จากนั้น ลิลลี่ก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือใดๆกับการจัดงานแต่งงานนี้ ไม่ว่าจะเลือกชุดหรือของอื่นๆ เธอจะเลี่ยงหนีไปขี่ม้าอย่างสบายใจ ปล่อยให้เพ้งกับเต็กต้องคอยวิ่งตามทุกฝีก้าว และแล้วปีเตอร์ก็มาที่บ้านเพื่อดูว่าลิลลี่เลือกอะไรไว้บ้าง เถ้าแก่จางต้องออกมารับหน้าแก้ตัวไปเรื่อย
ooooooo
ขณะเดียวกัน ที่เมืองไทย ณพ ลูกชายคนเดียวของอาคม พ่อม่ายนักธุรกิจใหญ่ เพิ่งลาออกจากการเป็นตำรวจ เพราะมีเรื่องสะเทือนใจ กอปรกับพ่อแต่งงานใหม่กับปทุมวดีกระดังงาลนไฟอายุคราวลูก และพาเข้ามาอยู่ในบ้าน ทั้งที่แม่เพิ่งเสียไปไม่ถึงสองเดือน ณพเห็นท่าทางปทุมวดีก็รู้ว่าไม่ได้รักพ่อของเขาจริง แต่หวังสมบัติมากกว่า จึงไม่แสดงความเคารพ
“ลูกชายคุณพี่ ท่าทางไม่เบานะคะ คุณพี่อย่าว่าฉันนะ หากว่าฉันต้องจัดระเบียบในบ้านนี้เสียใหม่ ไม่งั้นคนที่นี่ก็คงไม่รู้จักว่าอะไรต่ำ อะไรสูง” ปทุมวดีพูดแขวะไปถึงนวล ซึ่งเป็นคนเก่าคนแก่ของบ้าน ที่ดูจะจงรักภักดีกับคุณผู้หญิงคนก่อน
นวลยกกระเป๋าปทุมวดีมาไว้ในห้องของอาคม และเลยยืนมองรูปแม่ของณพที่ติดอยู่บนผนัง รำพัน “คุณนาถขา อย่าให้คุณณพคิดมากจนต้องเตลิดออกไปจากบ้านนี้เลยนะคะ ขอวิญญาณคุณนาถคุ้มครองคุณณพและทุกคนในบ้านด้วยค่ะ”
ปทุมวดีโผล่เข้ามา มองรูปนาถอย่างไม่สบอารมณ์ “ก็แค่อดีต ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว แกอย่าละเมอเพ้อพกไร้สาระอยู่เลย ไม่งั้นล่ะก็ระวังเงาหัวของแกไว้ให้ดี ไปได้แล้ว...”
นวลหน้าตึงออกไป ปทุมวดีมองรูปนาถแล้วบ่นว่า ลงนรกไปแล้วอย่าสะเออะมาวุ่นวายกับตน ทันใด ประตูห้องที่นวลปิดไม่สนิท เกิดกระแทกปิดเสียงดัง ปทุมวดีตกใจสะดุ้งสุดตัว...
ยังมีสร้อยสาวใช้อีกคนที่ทำตัวเป็นจิ้งจกเปลี่ยนสี เอาอกเอาใจปรนนิบัติปทุมวดี จนมีปากเสียงกับนวลบ่อยๆ ปทุมวดีจึงคอยช่วยปกป้องเพราะถือว่าเป็นคนของตน
วันต่อมา ปทุมวดีให้สร้อยปลดรูปนาถลงมาเอาไปทิ้ง นวลเห็นยื้อแย่งรูปจากสร้อย ณพเข้ามาเจอ สร้อยตกใจรีบปล่อยรูปตกพื้นกระจกแตก สร้อยกลัวลานชี้มือไปข้างบน
“คุณปทุมใช้สร้อยนะคะ คุณณพ สร้อยไม่ได้อยากทำ สร้อยถูกบังคับค่ะ”
ณพแค้นใจ จ้ำพรวดๆขึ้นไปข้างบน นวลก้มเก็บรูป สร้อยสบถ จะอาลัยอาวรณ์อะไรกันนักหนากับคนตาย นวลเงยหน้ามองสร้อยและด่าว่าเนรคุณ...ในขณะที่ปทุมวดีกำลังซบอกอาคมออดอ้อนว่าโดนผีหลอกจึงต้องปลดรูปนั้นออก ณพเปิดประตูพรวดเข้ามา
“ผมขอโทษที่เสียมารยาท แต่คงไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ คุณแม่เลี้ยง ในเมื่อคุณก็ไร้มารยาทยิ่งกว่าผม”
“คุณพี่...ฟังลูกชายคุณพี่สิคะ”
อาคมปราม แต่ณพย้อนถาม “คุณพ่อไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอครับที่เมียใหม่คุณพ่อ เอารูปคุณแม่ออกไปไว้นอกห้อง ทั้งที่ห้องนี้ เตียงนี้ ข้าวของทุกอย่างในห้องนี้เป็นของคุณแม่”
“แต่แม่แกตายไปแล้วนะ...”
“ไม่จริง คุณแม่ไม่เคยตาย ท่านยังอยู่ที่นี่ ยังคุ้มครองทุกคนในบ้าน อย่างน้อยก็คงคุ้มครองไม่ให้ผู้หญิงหน้าด้านคนหนึ่งมาชุบมือเปิบเอาสมบัติที่คุณแม่ร่วมกับคุณพ่อสร้างมันขึ้นมา”
ปทุมวดีโอดโอยทำท่าจะเป็นลมเพราะโดนดูถูกหัวใจ อาคมตกใจร้องเรียกให้ใครเอายาลมมาให้ ณพเห็นสายตายิ้มเยาะของปทุมวดีที่สามารถทำให้อาคมหันไปสนใจ...ณพเสียใจที่พ่อหลงเมียใหม่มาก จึงเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า นวลเข้ามาเห็นห้ามไม่ให้เขาออกจากบ้าน ณพไม่ฟังนวลจึงไปบอกอาคมให้ไปช่วยห้าม ปทุมวดีแค้นใจที่อาคมผลุนผลันออกไป จึงให้สร้อยไปสอดแนมว่าณพจะฆ่าตัวตายหรืออย่างไร...ณพลากกระเป๋าออกมา อาคมถาม
“แกจะไปไหนเจ้าณพ”
“ฮ่องกง...”
“ไปทำไม”
“คุณพ่อไม่จำเป็นต้องทราบหรอกครับ เชิญคุณพ่ออยู่กับเมียใหม่ให้สบายใจเถอะ สบายใจแล้วผมจะกลับมาเอง”
“จองหอง ปีกกล้าขาแข็งนักก็ไปเลย ไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก”
นวลตกใจจะร้องไห้ อาคมหันมาเห็นรีบเดินตามณพ ออกไปถามว่า “แล้วงานของแกล่ะเจ้าณพ แกไม่ทำงานทำการเหรอ ถึงจะหนีไปเที่ยวฮ่องกง”
ณพตอบว่าเขาลาออกแล้ว อาคมตกใจ “ลาออก...แกกำลังก้าวหน้าในอาชีพตำรวจ แล้วทำไม หา...ทำไม...”
“คุณแม่ไม่อยากให้ผมเป็นตำรวจ ส่วนคุณพ่ออยากให้ผมเป็น”
“ใช่ ฉันอยากให้แกเป็นแล้วทำไม”
“อะไรที่เป็นความต้องการของคุณแม่ ผมจะทำ แต่อะไรที่เป็นความต้องการของคุณพ่อต่อไปนี้ผมจะไม่ทำ ผมคงไม่จำเป็นต้องอธิบายนะครับ คุณพ่อ” ณพลากกระเป๋าออกไป
อาคมร้องเรียกให้กลับมาด้วยความเจ็บใจระคนเสียใจ...สร้อยรีบไปรายงานปทุมวดี พออาคมหงุดหงิดกลับเข้ามาในห้อง ปทุมวดีก็ทำเป็นยังอ่อนแรงอยู่แต่พยายามพูดปลอบใจอาคม
“ปทุมเป็นห่วงคุณพี่ ถ้ามีปัญหากับลูกชายล่ะก็อย่าเครียดไปเลยค่ะ เด็กหนุ่มๆก็ยังงี้แหละโอย...จะเป็นลม...” สร้อยบีบนวดให้ปทุมวดี
“ผมอยากให้เจ้าณพมันได้ยินกับหูจังเลยว่า ปทุมเป็นห่วงผม แล้วก็เข้าใจมันแค่ไหน”
ปทุมวดีถลึงตาใส่สร้อยให้ออกไป แล้วออดอ้อนออเซาะอาคม ว่าตนจะอดทนเพื่อเขา
ooooooo
แม้จะเดินเล่นในบริเวณบ้าน ลิลลี่ก็ยังถูกเพ้งกับเต็กตามคุมแจ ทำให้เธออึดอัดรำคาญ จึงขับรถหนีออกไปตามถนนบนเกาะฮ่องกง และแล้วมาจบลงที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่ง เธอเข้ามาจุดธูปไหว้พระ อธิษฐาน ขอให้ไม่ต้องแต่งงานกับปีเตอร์ พลันได้ยินเสียงนักท่องเที่ยวคนไทยคุยกัน
ลิลลี่เดินคิดอะไรบางอย่าง เผอิญชนเข้ากับใครคนหนึ่ง พอเห็นหน้ากันก็ดีใจ
“นภา...กำลังคิดถึงเลย มาทำอะไรแถวนี้”
“ลิลลี่...เรามาสอนภาษาไทยลูกศิษย์ เจอลิลลี่พอดีเลย เราว่าจะไปลา เราจะกลับเมืองไทย”
“กลับเมืองไทย...”
“ใช่ กลับคืนนี้แล้ว”
พลัน เพ้งกับเต็กตามมาถึง ลิลลี่บอกให้นภาช่วยด้วย แล้วดันนภาออกหน้า นภาใช้เท้ายันไม่ให้ทั้งสองเข้ามาใกล้ เพ้งหาทางจะพุ่งไปจับลิลลี่ เธอจึงผลักนภาใส่ เพ้ง เต็กและนภาล้มไปด้วยกัน ลิลลี่วิ่งหนี เพ้งจับตัวนภาพลิก นภาคิดว่าเพ้งจะแต๊ะอั๋งจึงตบหน้า เพี้ยะ...เต็กผวาลุกขึ้น นภาจึงหันไปตบเต็กอีกคนแล้วลุกวิ่งตามลิลลี่ไป
สองสาวเหนื่อยหอบแทบขาดใจ นภาถามลิลลี่ว่านั่นคนของพ่อไม่ใช่หรือ ไม่ทันตอบเพ้งตามมาทัน ลิลลี่ผลักนภาเข้าใส่อีกหน นภาเงื้อมือจะตบ เพ้งหยุดกึกรีบบอกว่า
“เราต้องตามคุณหนูกลับบ้าน คุณหนูต้องไปแต่งงาน”
นภาตกตะลึงกับข่าวใหม่ยืนหอบอยู่ตรงนั้น เพ้งกับเต็กวิ่งตามลิลลี่ต่อไป...
คืนนั้น...ปีเตอร์จะพาลิลลี่ออกงาน เขานั่งรอเธออยู่นาน เถ้าแก่จางอ้างว่าลิลลี่ต้องแต่งตัวให้สวย แต่ปีเตอร์เกรงจะไปไม่ทันเปิดงาน แถมลูกน้องโทร.ตามตลอดเวลา เถ้าแก่จางจึงขึ้นมาตามลิลลี่ ปีเตอร์ขึ้นมาด้วย เง็กขวางไม่ให้เข้า เถ้าแก่จางตวาดไล่ตามเคย พอเปิดประตูห้องเข้ามา เห็นลิลลี่ยังนอนหลับอุตุอยู่บนเตียง เถ้าแก่จางรีบมาปลุกแล้วเอ็ดว่าทำไมไม่รีบแต่งตัว ลิลลี่อ้าง
“อ้าว ก็ปีเตอร์อยากให้ลิลลี่สวยไม่ใช่เหรอ ไม่รู้รึไงว่าการนอนหลับทำให้ใบหน้าอิ่มเอิบ ดวงตาก็ใส ผิวก็เปล่งปลั่ง แต่งหน้าแล้วสวยกว่าผู้หญิงอดนอน ออกไปได้แล้ว ลิลลี่จะแต่งตัว”
เถ้าแก่จางกับปีเตอร์ต้องถอยออกมา เง็กถลันเข้าไปช่วยลิลลี่อาบน้ำแต่งตัว...พักใหญ่กว่าเธอจะแต่งตัวเสร็จ ปีเตอร์ขับรถด้วยความเร็วไปที่งาน ทำเอาลิลลี่หน้าคะมำ
“ระวังจะตายก่อนถึงงานนะปีเตอร์”
“ผมก็จะตายอยู่แล้ว รู้มั้ยระหว่างที่คุณแต่งตัว มีโทรศัพท์มาตามผมเท่าไหร่”
“ฉันก็เป็นของฉันยังงี้ ถ้าไม่พอใจก็ปล่อยฉันลง จอดสิ...จอด”
“จะบ้าเหรอ ลิลลี่” ปีเตอร์ขับรถไปชำเลืองมองลิลลี่ที่นั่งเชิดด้วยความโกรธ
ooooooo
ณพนั่งเครื่องบินมาฮ่องกง เพื่อมาหาดาหวัน แฟนสาว แต่แล้วเขาพบว่าดาหวันกำลังนอนอยู่กับเดวิด เขาโกรธมาก ต่อยหน้าเดวิดแล้วกลับออกไป เขามาเดินปล่อยอารมณ์บนถนนย่านจอแจ ดูแสงไฟยามราตรี พลันมีเสียงพลุดังขึ้นบนท้องฟ้า ณพสะดุ้งหลับตา ภาพในอดีตผุดขึ้น
วันที่เขาควบคุมตัวนักโทษออกจากสถานีตำรวจ นักข่าวมารุมล้อมถ่ายภาพ ทันใดมีรถคันหนึ่งแล่นมา แล้วยิงกราดใส่ตำรวจเพื่อชิงตัวนักโทษ เกิดความชุลมุน ณพยิงสวน กระสุนพลาดไปโดนนักข่าวบาดเจ็บ เธอไม่เอาความเพราะรู้ว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่เหตุการณ์นั้นทำให้ณพเสียใจลาออกจากการเป็นตำรวจ แม้เก่งเพื่อนสนิทจะทัดทานอย่างไรก็ไม่ฟัง...
บนถนนเดียวกันเป็นที่ตั้งโรงแรมหรูที่ปีเตอร์พาลิลลี่มาเปิดงาน ปีเตอร์ทักทายแขกเหรื่อและพูดคุยว่า “ซินแสดูดวงผมแล้วครับว่าปีหน้านี้มีแต่เฮงกับเฮง ยอดขายที่ห้างก็เพิ่ม สินค้าที่จะสั่งเข้ามาใหม่ก็จะขายดี และที่สำคัญ ผมจะได้แต่งงานกับลิลลี่ด้วย”
ลิลลี่แอบเบ้ปาก แขกเหรื่อหันมาแสดงความยินดีกับเธอ ปีเตอร์ยังบอกอีกว่าเครื่องสำอางที่เขาจะนำเข้ามาจากญี่ปุ่น เขาจะให้ลิลลี่เป็นพรีเซ็นเตอร์ ผู้คนฮือฮาชมว่าเยี่ยมเลย เพราะทั้งสวยและเป็นที่รู้จักกันดี ลิลลี่แอบบ่น “โธ่เอ๊ย ที่แท้ก็จะหาผลประโยชน์จากเรา...”
ปีเตอร์ควงลิลลี่ไปแนะนำกับแขกอีกกลุ่ม ก่อนจะพาไปกลางฟลอร์เต้นรำ เขากระซิบกับเธอว่า “รู้มั้ยลิลลี่ว่าคืนนี้ผมมีความสุขที่สุดเลย งานคืนนี้มันเหมือนเป็นฉากจำลองงานแต่งงานของเราสองคนเลยนะ”
“ฉันยังไม่อยากแต่ง ยิ่งรู้ว่าคุณจะแต่งกับฉันเพื่อจะได้โปรโมตสินค้าคุณด้วย ฉันยิ่งรู้สึกขยะแขยง”
“ของผมที่ไหน แต่งกันไปแล้ว ก็เท่ากับว่ามันเป็นของคุณด้วยนะ ลิลลี่”
ลิลลี่ดึงดันยังไม่อยากแต่ง ปีเตอร์ให้เบาเสียงเกรงใครจะได้ยิน ลิลลี่ไม่สนใจยืนยันว่าไม่อยากแต่งงานกับเขา ลิลลี่สะบัดตัวออกเดินหนี ปีเตอร์จะตาม พอดีมีหญิงสาวอีกคนผละจากคู่เต้นเข้ามาเต้นกับเขา ทำให้เขาต้องรักษามารยาทเต้นรำด้วย แต่ยังชะเง้อมองตามลิลลี่
ถือโอกาสวิ่งหนีออกมาหน้าโรงแรม ลิลลี่ชนเข้ากับณพล้มลงไปทั้งคู่ พอดีปีเตอร์ตามมา ลิลลี่จึงผละลุกวิ่งไปโบกแท็กซี่ขึ้นไปทันที ณพยืนงง ปีเตอร์โกรธโทร.ฟ้องเถ้าแก่จาง
“ลิลลี่หนีผมไปแล้ว ถ้าเธอกลับมา คุณช่วยสั่งสอนด้วยนะครับว่าอย่าทำกับผมยังงี้ แล้วผมจะจัดงานแต่งงานกับเธอให้เร็วที่สุด บอกเธอเลยว่าเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวผมได้เลย”
พอวางสายกำลังจะสั่งเพ้งกับเต็กไปตาม ลิลลี่ก็กลับมาพอดี เถ้าแก่จางบอกลิลลี่ว่าปีเตอร์โกรธมาก และเลื่อนการแต่งงานเข้ามา ลิลลี่โอดครวญ
“ยังไม่ได้แต่งก็ใช้อำนาจกับลูกสาวของปาป๊าแล้ว ปาป๊าทนได้เหรอไม่สงสารลิลลี่หรือ ปาป๊าคิดดูให้ดีนะ ลิลลี่เป็นลูกสาวของปาป๊านะ”
เถ้าแก่จางจะแย้ง ลิลลี่ขู่ว่าอยากอยู่คนเดียวห้ามใครรบกวน ไม่อย่างนั้นจะฆ่าตัวตาย เถ้าแก่จางรีบถอยออก...เพ้งแม้จะเป็นคนของเถ้าแก่จาง แต่ก็เห็นใจลิลลี่เพราะเขาเฝ้าหลงรักเธอมานาน จึงไม่ค่อยบีบคั้นเธอเท่าไหร่ ผิดกับเต็กที่ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
ooooooo
อาคมคิดถึงณพ พยายามโทร.ตามให้กลับมาบ้าน แต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง อาคมจึงประกาศว่าให้กลับมาก่อนที่เขาจะตัดออกจากกองมรดก ณพย้อนว่าอยากจะเอาสมบัติที่แม่ของเขาร่วมสร้างมาไปทำอะไรก็เชิญ ปทุมวดีแอบฟัง อมยิ้มชอบใจ พออาคมวางสายก็ตีหน้าเศร้าเสียใจโทษตนเป็นต้นเหตุ อาคมปลอบว่าเขาจะให้เวลาลูกชายสักพัก ถ้าไม่กลับมาก็ขาดกัน ปทุมวดีสะใจ
นวลแอบมาดักรออาคมก่อนจะขึ้นรถเพื่อเตือนเรื่องณพ แต่อาคมไม่ฟัง นวลจึงโทร.ไปหาณพบอกให้รีบกลับบ้าน พลันปทุมวดีเดินมาดึงโทรศัพท์วางลง “สาระแนนักนะนังนวล คิดเหรอว่ามันกลับมาแล้ว มันจะได้สมบัติ แกจำไว้นะ สมบัติทุกชิ้นในบ้านนี้มันต้องเป็นของฉัน”
ณพงงที่นวลวางสายดื้อๆ รำพึงว่าเขาจะกลับไปทำไม ในเมื่อพ่อเห็นเมียใหม่สำคัญกว่า...
ระหว่างที่เพ้งกับเต็กกำลังให้อาหารม้าอยู่ ลิลลี่เดินผ่านมาท่าทางเศร้าๆ เพ้งชวนให้ขี่ม้า พอดีเง็กวิ่งมาตามให้ไปลองชุดแต่งงานที่ปีเตอร์ส่งมาให้ ลิลลี่ยิ่งเซ็งหนักเดินหนีไป เพ้งถอนใจสงสารเธอ...ลิลลี่เดินกลับเข้าบ้าน เถ้าแก่จางถามว่าชอบชุดที่ปีเตอร์ส่งมาไหม เธอตอบไม่ชอบและไม่อยากแต่ง ไม่อยากลอง พูดแล้วก็เดินหนีไป เง็กวิ่งกลับมาเหนื่อยหอบ เถ้าแก่จางสั่งให้เง็กทำให้ลิลลี่ลองชุดให้ได้ ถ้าไม่สำเร็จจะส่งไปทำงานเลี้ยงเป็ดแทน เง็กหน้าเบ้หนักใจ
เง็กตามเข้ามาตื๊อให้ลิลลี่ลองชุด ลิลลี่จึงออกอุบายขังเง็กในตู้เสื้อผ้า บอกเง็กว่าตนจะไปตามหารักแท้ ลิลลี่เก็บของใส่กระเป๋าออกจากบ้าน เผอิญเถ้าแก่จางออกไปอยู่ที่คอกม้ากับเพ้ง
เน้ยซึ่งกำลังทำความสะอาดห้องโถงอยู่เห็นรีบวิ่งไปบอกเถ้าแก่จาง ทุกคนรีบมาที่ห้องลิลลี่ ได้ยินเสียงน้ำก็เข้าใจว่าลิลลี่อาบน้ำอยู่ แต่มีเสียงปึงปังในตู้ เพ้งจึงไปเปิดดู เง็กทะลึ่งพรวดออกมาล้มข้างนอกเหงื่อท่วมตัว เถ้าแก่จางเห็นจดหมายที่ลิลลี่ทิ้งไว้ว่าเธอไม่อยากแต่งงาน ไม่ต้องเป็นห่วง เธอจะกลับมาพร้อมเจ้าชายในฝัน...เถ้าแก่จางลมจับ เง็กตกใจรีบพัดวี...
เพ้งชวนเต็กมาตามลิลลี่ที่สนามบิน เต็กไม่เข้าใจทำไมมาตามที่นี่ เพ้งด่า “โธ่ไอ้โง่ ขืนอยู่ที่นี่ มีหรือจะพ้นสายตาคุณปีเตอร์กับเถ้าแก่ คุณหนูจะต้องออกนอกประเทศ”
เต็กถึงบางอ้อรีบมองหาลิลลี่ จนเห็นว่ากำลังจะเข้าไปข้างใน ทั้งสองตามแต่ถูกเจ้าหน้าที่กันไว้ ทั้งสองจึงกลับมารายงานเถ้าแก่จางว่าลิลลี่ออกนอกประเทศไปแล้ว เถ้าแก่จางโวยวายให้ไปเช็กมาให้ได้ว่าลิลลี่ไปที่ไหน ไม่นานเพ้งมารายงานว่าลิลลี่ไปเมืองไทยเพราะมีเพื่อนเป็นคนไทยคนหนึ่งชื่อศุภนภา เถ้าแก่จางจึงสั่ง
“หน้าที่ของแกสองคนก็คือ ตามลิลลี่กลับมาแต่งงานกับปีเตอร์ให้ได้ แต่แกสองคนจะแพร่งพรายให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะปีเตอร์”...เพ้งกับเต็กรับคำ
บนเครื่องบิน ลิลลี่กับณพนั่งเหม่อมองไปนอกหน้าต่างคนละมุม ต่างมุ่งหน้าไปเมืองไทย พอมาถึง ณพลากกระเป๋าออกมาที่ลานจอดรถ ดาหวันมาดักรอขอโทษ ขอกลับมาเหมือนเดิม
ณพตวาดใส่หน้า “เราจบกันแล้ว ดาหวัน”
“ไม่นะณพ ดาหวันไม่ยอม” ดาหวันกระชากตัวณพให้หันมา
เป็นจังหวะที่ลิลลี่ลากกระเป๋ามาพอดี จึงชนล้มลงกระเป๋าหลุดมือไปข้างกระเป๋าของณพ ดาหวันไม่สนใจ ดึงมือณพไปคุยกันให้รู้เรื่อง ลิลลี่ลุกขึ้นเองอย่างแค้นๆคว้ากระเป๋าผิดใบเดินออกไปโดยไม่ทันสังเกตว่ากระเป๋าเหมือนกัน...ณพสะบัดมือออกจากดาหวัน ไม่ยอมคุยด้วยบอกเพียงว่าเขาขยะแขยงผู้หญิงอย่างเธอ แล้วกลับไปลากกระเป๋าไปอีกทาง ดาหวันกรีดร้อง จะไม่ยอมปล่อยเขาไปเด็ดขาด
ooooooo
ลิลลี่ลากกระเป๋าสัมภาระขึ้นรถแท็กซี่ เธอส่ง นามบัตรให้คนขับพาไปส่งตามที่อยู่นั้น แต่พอมาถึงปรากฏว่านภาย้ายไปนานแล้ว เธอจึงต้องหาโรงแรมพักและต้องเป็นโรงแรมระดับห้าดาว เพื่อไตร่ตรองว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
ณพกลับมาไม่เข้าบ้าน เขามาอยู่คอนโดฯส่วนตัวของเขา เก่งมาอยู่เป็นเพื่อน ณพให้เก่งไปเปิดกระเป๋าเอาของฝาก เก่งลากกระเป๋ามาเปิดออกแล้วต้องผงะร้องเสียงหลง
“เฮ้ย...ไอ้ณพ เอ็งแน่ใจนะว่าซื้อฝากข้าน่ะ...”
“ทำไมวะ ไม่ชอบเหรอ”
“เอ็งคิดว่าข้าจะชอบของฝากเอ็งหรือวะ” เก่งชูเสื้อยกทรงขึ้นมา
ณพตกใจเป็นไปได้อย่างไร เก่งขำกลิ้ง หยิบกระโปรงและชุดสีฉูดฉาดออกมาอีก...ขณะเดียวกัน ลิลลี่หยิบชุดผู้ชายออกมาทีละชิ้นๆอย่างงงๆจนถึงบ็อกเซอร์ เธอโยนมันทิ้งอย่างขยะแขยง งุนงงว่าตัวเองเอากระเป๋าปาป๊าหรือของเพ้งมากันแน่
วันรุ่งขึ้น ณพกำชับเก่งไม่ให้บอกใครว่าเขาอยู่ที่นี่ และตั้งใจว่าจะไปไหว้แม่ที่สุสาน ในขณะที่ลิลลี่ใช้บริการรถลีมูซีนของโรงแรมให้พาไปที่ห้างหรูที่สุดของเมืองไทย เพ้งคาดการณ์แล้วว่าเธอต้องอยู่โรงแรมหรูเริด จึงตามมาทันเห็นเธอนั่งรถออกไปรีบโบกรถตาม รถติดไฟแดงคู่กัน ลิลลี่หันมาเห็นเพ้ง ตกใจมากตัดสินใจลงจากรถวิ่งข้ามถนนไปทันที เพ้งกับเต็กลงจากรถวิ่งตาม คนขับรถทั้งสองคันตกใจลงมายืนเกาหัวงงๆ พลันไฟเขียว ทำให้ทั้งสองต้องกลับขึ้นรถขับออกไป
ลิลลี่วิ่งหนีเข้ามาในตลาด ชนข้าวของแม่ค้าล้มกระจาย เกิดความโกลาหล เพ้งกับเต็กวิ่งตามมา ลิลลี่หันไปมอง จึงชนเข้ากับณพซึ่งมาซื้อพวงมาลัย ณพโอบกอดลิลลี่ไว้ไม่ให้ล้ม ลิลลี่ตะลึงเมื่อรู้สึกตัวว่าอยู่ในอ้อมกอดผู้ชาย สองคนประสานสายตากันสักพัก
“ช่วยด้วย พวกมันจะฆ่าฉัน” ลิลลี่นึกได้รีบขอร้อง
สัญชาตญาณตำรวจของณพ ทำให้เขาดันร่างลิลลี่เข้าไปหลบในซอกตึก เพ้งกับเต็กวิ่งผ่านไป ณพเริ่มสังเกตหน้าตาและการแต่งตัวของลิลลี่ เธอละล่ำละลักบอกเขาว่า
“พวกมันจะลามปามฉัน...”
ณพอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนจะยิ้มออกมา “ลามปาม... ลวนลามหรือเปล่าครับ”
ลิลลี่พยักหน้าด้วยอาการยังตื่นตระหนก ณพปลอบว่าไม่ต้องกลัว เขาเกลียดผู้ชายที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษ พอดีเพ้งกับเต็กวิ่งกลับมา ลิลลี่ขอร้องณพ “อย่าให้พวกนั้นจับฉันไปได้นะคะ”
จึงเกิดการต่อสู้กันชุลมุน เพ้งดึงลิลลี่มาได้ ณพกระชาก
กลับมาแล้วชกทั้งเพ้งและเต็กล้มลง ก่อนจะดึงลิลลี่ทะยานออกไปกับเขาอย่างเร็ว ทั้งสองไปหลบข้างกองลัง ณพกอดลิลลี่ก้มลง พอดีเพ้งกับเต็กถูกสุนัขไล่กัดวิ่งหนีออกไปจากซอย ลิลลี่เงยหน้ามองจึงชนเข้ากับแก้มณพ เธอเขินอายอ้อมแอ้มบอกเขาให้ปล่อยได้แล้ว ณพสะดุ้งรีบปล่อยเธอและขอโทษ ต่างคนต่างมองพิจารณากันและกัน ลิลลี่นึกเปรียบเทียบณพกับปีเตอร์
“คุณชื่ออะไร...”
“ณพ...ผมชื่อณพ...คุณล่ะ”
“ฉันชื่อลิลลี่”
“ชื่อฝรั่งซะด้วย แต่หน้าตาไม่ยักฝรั่ง”
ลิลลี่หน้าตึงตอบเสียงเขียว “ฉันเป็นคนจีน”
“แหงล่ะ เมืองไทยคนจีนออกแยะ อาชีพอะไร”
ลิลลี่เบ้ปากตอบว่าไม่มีอาชีพ ณพมองการแต่งตัวของเธอแล้วเดาว่าเป็นผู้หญิงหากิน ณพเดินนำเธอออกมาจากที่ซ่อน ลิลลี่เดินตาม ณพหยุดกะทันหัน เธอชนกลางหลังเขาเต็มๆ ถอยมาลูบจมูกป้อยๆ ณพนึกได้หันมาจะถามว่า เธออยู่คนเดียวหรือ ิลลลี่พยักหน้า
“ชัดเลย...แบบนี้สงสัยหากินแน่ๆ คงหนีออกมาจากซ่องใช่มั้ย ถึงมีคนตามมาจับ” ณพพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะถามเธอว่า “อยู่คนเดียวอันตรายนะ ระวังพวกมันส่งคนมาจับกลับไปอีก ทำงานอย่างว่าใช่มั้ยเรา...เอ้อ ขอโทษนะ”
ลิลลี่ไม่เข้าใจความหมายเกาหัวแกรกๆ “อย่างว่าเป็นอย่างไรเหรอ”
“ก็...อย่างว่าน่ะ...”
“อย่างว่า...ใช่มั้ง อย่างว่าก็อย่างว่า” ลิลลี่เออออไปก่อนทั้งที่ไม่เข้าใจ
“เออ ยอมรับตรงๆก็ดีนะ น่ารักดี...จะให้แจ้งตำรวจมั้ย เผื่อว่าพวกแมงดามันจะมาจับเธอไปอีก”
“แมงดา...อ๊ะ ตำรวจไม่ดีกว่า ฉันไม่ชอบตำรวจ” ลิลลี่ไม่รู้จักแมงดา
ณพถามว่าจะทำอย่างไรต่อไป ลิลลี่อึ้ง พลันได้ยินเสียงเพ้งร้องเรียกคุณหนู...ณพจึงดึงเธอวิ่งหนีอีกรอบ จน
พ้นมาได้อย่างเหนื่อยหอบ ลิลลี่จึงซักถามเขาบ้างว่าเขาทำงานอะไร พอรู้ว่าตกงาน เคยเป็นตำรวจ ลิลลี่ก็ทึ่งถึงว่า ได้ต่อสู้เก่ง ณพเตือนอีกว่าควรแจ้งตำรวจ
“ฉันไม่อยากเจอตำรวจ”
ณพพึมพำกับตัวเอง “อาชีพอย่างว่าก็เลยกลัวตำรวจจับ...ตามใจคุณนะ ผมไปล่ะ”
ลิลลี่ร้องว่าตนหิวช่วยพาไปทานอะไรหน่อย ณพว่าเขาไม่หิว ลิลลี่จึงมีข้อเสนอ
“เดี๋ยวสิ ฉันจะจ้างคุณเป็นบอดี้การ์ด คุณจะว่ายังไง เรื่องค่าจ้างไม่มีปัญหา”
“ผมไม่ทำงานประเภทนี้หรอก ผมเพิ่งลาออก ตอนนี้ อยากพัก” ณพเดินหนี
ลิลลี่วิ่งมาดักหน้า “เงินเดือนตำรวจเท่าไหร่”
“ไม่มาก...”
“งั้นฉันจ้างคุณเดือนละสามหมื่นบาท”
ณพก้มมองตัวเองแล้วถามว่าท่าทางเขาจนมากหรือ ลิลลี่ว่าตนดูไม่ผิดหรอก ถ้าสามหมื่นไม่พอจะเพิ่มให้ ณพปฏิเสธเดินลิ่วๆหนีไป ลิลลี่งงว่าพูดอะไรผิดทำให้เขาไม่รับข้อเสนอ...
เพิ่งได้รับรายงานจากเพ้งว่าเจอลิลลี่ที่เมืองไทยแล้ว แต่มีคนช่วยพาหนีไปได้ เถ้าแก่จางต้องปวดหัวอีกเมื่อปีเตอร์มาหาลิลลี่ เขาต้องโกหกไปว่าลิลลี่ไปหาเพื่อนที่เมืองไทย ปีเตอร์หงุดหงิดทันที ถามว่าเพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย พอเถ้าแก่จางบอกว่าผู้หญิงก็โล่งอก
“ถ้าอีกสองวันเธอยังไม่กลับ ผมจะให้ลูกน้องผมที่เมืองไทยตามตัวเธอกลับมาเอง...”
กลับมาที่คอนโดฯ ณพรื้อเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมาดูเห็นสีสันฉูดฉาดแล้วอมยิ้ม “ถ้าผู้หญิงคนนั้นใส่คงสวยนะ ผู้หญิงอาชีพอย่างว่า...ทำไมถึงมีเสน่ห์จัง”
ในขณะที่ลิลลี่หยิบเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมาโยนทีละชิ้นๆ อย่างหัวเสีย “เสื้อผ้าของฉัน บ้าเอ๊ย...ใครนะซุ่มซ่ามหยิบกระเป๋าผิด นี่ถ้าอยู่บ้านจะให้ปาป๊าตามจัดการสั่งสอนมันให้เข็ด...ป่านนี้ปาป๊าจะเป็นยังไงบ้างนะ” ลิลลี่อดคิดถึงพ่อไม่ได้
ooooooo
ที่มา ไทยรัฐ
No comments:
Post a Comment