น้ำฝนพูดแซวพี่สาวแล้วเห็นทั้งสิตาและชนนท์ต่างเขินด้วยกันทั้งคู่ เลยยิ่งแน่ใจว่าทั้งสองมีใจให้กัน
ดังนั้น เมื่อแม้นมาศผู้เป็นแม่บอกน้ำฝนให้หันมาสนใจช่วยงานของสิตาบ้าง อย่ามัวแต่สนุกกับการทำรายการทีวี น้ำฝนบอกแม่ว่าไม่ต้องห่วงว่าสิตาไม่มีคนช่วยและยิ่งไม่ต้องห่วงว่าพี่สาวจะขึ้นคานทอง
“น้ำฝนเจอใครที่เหมาะกับพี่เขาแล้วเหรอ” แม้นมาศ ถามอย่างสนใจ ตื่นเต้น
“ก็พี่นนท์ไงคะ น้ำฝนพูดเต็มปากเต็มคำ พอแม่มองอย่างสงสัย เธอทำเสียงแหลมทะเล้นว่า “ถูกต้องแล้วคร้าบบบบ วันนี้น้ำฝนไปเห็นอะไรดีๆมาค่ะ”
ฝ่ายหลิน ก็เฝ้าคิดถึงและรอการกลับมาของเพลิง จนเถ้าแก่เฮงผู้เป็นเตี่ยถามว่าใจคอจะไม่ทำงานทำการเลยหรือ แล้วถ้าเพลิงไม่กลับมาจะรอแบบนี้ไปจนแก่รึไง เตือนสติลูกสาวว่า
“เพลิงอีไม่ใช่คนเดิมแล้ว อีเป็นหลานคนรวย ครอบครัวอี ก็อยู่กรุงเทพฯ ลื้อเอาติ่งหูคิดสิ ถ้าเป็นลื้อ ลื้อจะกลับไหม”
ฟังเตี่ยแล้วหลินยิ่งสับสนว้าวุ่นใจ กลัวเพลิงจะไม่กลับมาจริงๆ
เวลาเดียวกัน ผ่องอยู่ที่เรือนคนสวนบ้านปางพญา ปรารภกับเพลิงอย่างวิตกว่า ถ้าทองตราไม่ใจอ่อนจะทำอย่างไร เพลิงกุมมือแม่ให้กำลังใจว่า เราก็จะพยายามต่อไป พรุ่งนี้ท่านก็จะกลับมาแล้ว ตนจะหาทางพูดกับท่านให้ยกโทษให้พ่อกับแม่ให้ได้ ผ่องพยักหน้าแหงนมองไปในอากาศพึมพำ...
“พี่ภัช...หัวใจพี่ภัชอยู่กับท่าน...พี่ช่วยดลบันดาลให้ท่านใจอ่อน ยอมยกโทษให้เราสองคนด้วยนะจ๊ะ” พูดพลาง บีบมือกับเพลิงอย่างให้กำลังใจกันและกัน
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น ทองตรากลับบ้านปางพญาแล้ว พอมาถึงบ้านบุษกลกับนาฎนรีรีบออกไปต้อนรับ ทองตราถามถึง “สองแม่ลูก” ว่ากลับไปหรือยัง
“พี่เพลิงกับป้าผ่องยังอยู่ที่เรือนคนสวนครับ ถ้าคุณย่าอยากเจอผมจะให้คนไปตาม” ชนนท์รีบบอก แต่ถูกบุษกลพูดกันท่าว่า ตนไม่แน่ใจว่าสองคนนั้นมาดีหรือมาร้าย เลยให้อยู่ที่เรือนคนสวนไปก่อน หลังจากนั้นก็แล้วแต่แม่จะตัดสินใจ แต่ก็เป่าหูทิ้งท้ายว่า
“แต่คุณแม่คิดให้ดีก่อนแล้วกันนะคะ เพราะสองคนนั้นอาจจะมาทวงทุกอย่างที่เคยเป็นของพี่ภัชกลับคืนก็ได้”
ทองตรานิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วบอกให้ไปตามสองคนนั้น มาหาตนที่ห้องทำงาน บุษกลกับนาฎนรีกุลีกุจอไปทันที นิรุตกับชนนท์มองหน้ากันอย่างนึกห่วงเพลิงและผ่องขึ้นมา
ooooooo
เมื่อผ่องกับเพลิงมาพบทองตราที่ห้องทำงาน สองแม่ลูกก็ยังย้ำเจตนาเดิมที่ต้องการมากราบขอโทษเรื่องในอดีต ผ่องบอกว่าพิภัชสำนึกผิดและอยากมา กราบขอโทษคุณหญิงแม่จริงๆ
ทองตราถามอย่างเย็นชาว่า มันไม่ง่ายไปหรือที่จะมาพูดแค่นี้แล้วให้ตนลืมความเจ็บปวดในอดีต
“ผมไม่ได้คาดหวังว่าย่าจะต้องยกโทษให้พ่อกับแม่ผมเดี๋ยวนี้หรอกครับ แต่ถ้าผมจะทำอะไรเพื่อชดเชยความผิดในอดีตของพ่อกับแม่ได้ ผมก็ยินดีทำทุกอย่าง”
“ของบางอย่างที่มันเสียไปแล้ว ไม่ว่าจะซ่อมแซม
ยังไงมันก็ไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมได้หรอก”
“ย่าพูดถูกครับ แก้วที่มันแตกไปแล้วมันทำให้กลับเป็นเนื้อเดิมไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าสายใยของย่ากับพ่อมันไม่ใช่อย่างนั้น มันน่าจะเป็นเหมือนน้ำที่ไม่ว่าเราตีให้แตกจากกันยังไง มันก็กลับมารวมกันได้เหมือนเดิม” เพลิงพูดเรียบๆทว่าหนักแน่น ทำให้ทองตรามองหน้าหลานชายอย่างชั่งใจ
บุษกลกับนาฎนรีแอบดูอยู่ ต่างกังวลกลัวทองตราจะใจอ่อน
ooooooo
เมื่อกลับถึงเรือนคนสวน ผ่องพูดให้กำลังใจเพลิงว่าได้พยายามพูดแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นกับคุณย่าว่าจะยอมให้อภัยพ่อกับแม่หรือเปล่า
“ผมอยากทำอะไรเพื่อพ่อได้มากกว่านี้ อยากทำให้ความตั้งใจของพ่อสำเร็จ...แต่เราคงไม่มีโอกาสแล้วล่ะครับแม่” เพลิงพูดอย่างสะท้อนใจ
นิรุตกับชนนท์พยายามช่วยกันพูดให้ทองตราให้โอกาสเพลิงได้พิสูจน์ตัวเองก่อนที่จะให้กลับไป ชนนท์พูดกับย่าว่า เพลิงอาจจะทำให้คุณย่าลืมเรื่องอดีตแล้วมีความสุขกับปัจจุบันได้
“แล้วถ้าสองคนนั้นมาเพื่อจะทวงสิ่งที่เป็นของพิภัชจริงๆ ฉันไม่ต้องช้ำใจรอบสองเหรอ” ทองตราระแวง กังวล แล้วจึงบอกนิรุตกับชนนท์ว่า “พิภัชถือหุ้นอยู่ในเพชรไทยยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ให้ทั้งสองคนขายหุ้นคืนให้บริษัทเสียจะได้เงินจากการขายหุ้นที่พอจะทำให้สองแม่ลูกอยู่ดีกินดีไปทั้งชาติ หวังว่าแค่นี้เขาคงพอใจนะ”
นิรุตกับชนนท์นิ่งอึ้งที่ทองตราไม่ยอมใจอ่อน แต่เมื่อทั้งสองไปบอกเพลิงกับผ่องตามที่ทองตราพูด เพลิงมองนิรุตกับชนนท์ที่มาบอกข่าวนิ่งนานจนผ่องถามว่ามีอะไรหรือ
“ผมคิดว่าเราไม่ต้องกลับระนองแล้วครับแม่ ถ้าพ่อมีหุ้นในเพชรไทย ก็เท่ากับว่าผมมีสิทธิ์ในเพชรไทยเหมือนกัน ผมจะไม่ขายหุ้นครับ แต่จะใช้มันอ้างสิทธิ์ในการอยู่ที่นี่ต่อ”
ทั้งผ่อง นิรุต และชนนท์ ต่างตื่นเต้นเห็นด้วยกับความคิดของเพลิง
ooooooo
บุษกลดีใจมากกับการตัดสินใจของทองตรา คิดว่าผ่องกับเพลิงคงกลับระนองไปแล้ว เข้ามาประจบแม่ว่าไม่ต้องห่วง ต่อไปนี้ตนจะดูแลทุกอย่างแทนคุณแม่เอง รวมทั้งเพชรไทยด้วย
ทองตรามองหน้าลูกสาวอย่างรู้ทันความคิด ก็ได้แต่มองอย่างเหนื่อยใจ
เวลาเดียวกัน เมื่อเพลิงตัดสินใจเช่นนั้นแล้ว เขาหยิบกระเป๋าสตางค์ที่มีรูปพ่อขึ้นมาบอกกล่าวว่า
“พ่อครับ ผมจะทำทุกอย่างให้ย่ายกโทษเรื่องอดีตของพ่อกับแม่ให้ได้”
รุ่งขึ้นเพลิงไปหาทองตรา เข้าไปยืนใกล้ๆรถเข็นบอกว่า
“ผมจะมาเรียนย่าว่า ผมจะไม่ไปจนกว่าจะทำให้ย่ายกโทษให้พ่อกับแม่ผมให้ได้ก่อน พ่อผมมีหุ้นอยู่ในเพชรไทยก็เท่ากับว่าผมมีสิทธิ์ในบริษัท...ผมเลยอยากจะขอใช้โอกาสนี้เข้าไปช่วยงานที่เพชรไทย”
ทองตราปฏิเสธทันทีว่า ไม่จำเป็น ให้เขาขายหุ้นคืนบริษัทแล้วกลับไปอยู่อย่างสุขสบายที่ระนองดีกว่า เพลิงชี้แจงว่าถ้าตนกับแม่อยากอยู่สุขสบายก็ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ ถึงไม่มีเงินมากเราก็มีความสุขดี ย้ำว่า
“แต่ที่ผมกับแม่มาที่นี่ เราสองคนไม่ได้ต้องการอะไร นอกจาก ทำให้ความตั้งใจของพ่อสำเร็จ พ่อตั้งใจมาขอโทษย่าที่หนีหายไปยี่สิบห้าปี แต่พ่อไม่มีโอกาส เพราะฉะนั้นผมกับแม่จะสานต่อความตั้งใจของพ่อ”
ทองตรายังตั้งแง่ว่าเขาไม่เคยจับธุรกิจค้าเพชรมาก่อน งานนี้มันไม่ง่าย เพลิงขอโอกาส รับปากยืนยันว่าตนยินดีเรียนรู้งานทุกอย่างถ้าย่าให้โอกาส
ที่มา ไทยรัฐ
No comments:
Post a Comment