Monday, July 4, 2011

ลิลลี่สีกุหลาบ ตอนที่ 5

เมื่อเพ้งกับเต็กพยายามขอร้องลิลลี่ให้กลับฮ่องกง และอย่าไว้วางใจณพให้มาก เต็กถามลิลลี่ว่ารักณพหรือ เถ้าแก่จางคงเสียใจถ้าเธอไม่รักปีเตอร์ ลิลลี่ว่ามันเรื่องของตน แต่เต็กหมดความอดทนคว้ามือจะเอาตัวเธอกลับให้ได้ เพ้งร้องห้าม เต็กตวาด

“ช้าอยู่ทำไมวะ ไอ้เพ้งเร็วสิ จับคุณหนูให้ได้ก่อน แล้วเรียกคุณปีเตอร์หรือเถ้าแก่มารับตัวกลับไป”

เพ้งละล้าละลัง ณพตัดสินใจออกจากพุ่มไม้ เตะทั้งเต็กและเพ้งกระเด็น แล้วคว้ามือลิลลี่วิ่งหนีไปทางหนึ่ง เต็กลุกขึ้นเลือดกบปาก เพ้งหันมาตำหนิที่วู่วาม...ณพพาลิลลี่กลับขึ้นห้อง แล้วต่อว่าที่ดื้อดึงไม่เชื่อฟังเขา ลิลลี่งอนเข้าห้องปิดล็อกประตู ณพจึงโทร.เข้ามือถือเธอ

“ค่ำนี้ผมไม่อยู่นะขอตัวไปทำธุระส่วนตัว รู้มั้ยว่าเป็นห่วง คุณมาก รับปากผมได้มั้ยว่าจะไม่ออกไปจากห้อง จนกว่าผมจะกลับมา....”

ลิลลี่รับรู้ถึงกระแสความห่วงใยของณพ “แล้วจะไม่บอกฉันสักคำเลยเหรอว่าจะไปไหน”

“ไปแล้วก็กลับมา คุณอย่ารู้เลยลิลลี่”

“ถ้างั้น ก่อนคุณไป คุณต้องพาฉันไปเดินเล่น แล้วก็กินข้าวก่อน หลังจากนั้นค่อยพาฉันมาส่งที่ห้อง ตกลงมั้ย”

ณพรับปาก...ต่างคนต่างอาบน้ำแต่งตัว ลิลลี่เปิดประตูห้องที่เชื่อมต่อกันสองห้องเข้าไปหาณพ เขาสะดุ้งโหยงเพราะยังเปลือยท่อนบนอยู่ ณพโวยว่าไม่รู้จักเคาะประตูก่อน

“ฉันจะมาบอกให้คุณรู้ว่า ฉันแค่จะไปเดินเล่นกินข้าว คุณไม่ต้องแต่งหล่อมากก็ได้ ฉันไม่ชอบให้สาวๆมองคุณนักหรอก....เห็นแล้วหงุดหงิดใจ”

ณพหูผึ่งไม่อยากเชื่อ รู้สึกเหมือนลิลลี่จะหึงหวงเขา ลิลลี่กลับออกไป...พอทานข้าวเสร็จ เดินดูร้านในโรงแรม ณพย้ำว่าเดี๋ยวต้องอยู่แต่ในห้องห้ามออกมา ลิลลี่ขอไปธุระกับเขาด้วย ณพอ้างเป็นเรื่องในครอบครัวของเขา ลิลลี่งอนที่ณพมีความลับ ณพโต้ว่าเธอยังมีความลับกับเขาเลย พลันลิลลี่เห็นร้านขายกระเป๋ามีแบบเดียวกับที่ตนถือเมื่อกลางวันเลย จึงอยากได้มาสลับกับใบเก่า ณพแย้งว่าซื้อทำไมเหมือนของเดิมทั้งแบบและสี แต่เธอก็ซื้อ

พอมาส่งที่ห้อง ณพกำชับ ถ้าไม่เชื่อฟังเขา ออกไปไหน เขาจะลาออกและไม่กลับมาให้เห็นหน้าอีกตลอดชีวิต ลิลลี่เยาะ “ยังกะฉันอยากเห็นหน้านายจะแย่แล้ว”

“หล่ออย่างนี้คุณยังไม่อยากมองอีกเหรอ”

“คุณนี่หลงตัวเองก็เป็นด้วยนะ”

“หวังว่ากลับมา ผมยังได้พบคุณนะลิลลี่ เชื่อผมนะ” ณพย้ำอย่างห่วงใย ลิลลี่รับปาก

เพ้งกับเต็กเห็นณพออกไปข้างนอกจึงรีบมาเกลี้ยกล่อมลิลลี่อีกครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จเช่นเคย ลิลลี่รื้อกระเป๋าเจอกุญแจก็แปลกใจ สงสัยว่าเป็นของเถ้าแก่จาง จึงแยกวางไว้โต๊ะหัวเตียง

ณพขับรถออกจากโรงแรม ดาหวันเห็นวิ่งมาขวางหน้ารถ ขออาศัยไปลงระหว่างทาง แต่พอเขาจอดให้ลง เธอก็ต่อรองว่าพรุ่งนี้เย็นต้องไปดินเนอร์กับตน ณพพยักหน้าไปอย่างนั้น...

พิพัฒน์สั่งกิติกับอำนวยให้คอยสะกดรอยตามณพ ตอนกลับจนกว่าจะรู้ว่าพักที่ไหน พอรถณพมาถึง สองคนก็รีบหลบ นวลดีใจ ออกมารับณพ อาคมเดินออกมาพร้อมปทุมวดี ณพไหว้อาคม ไม่มองหน้าปทุมวดี อาคมไม่พอใจ

“แกไม่เห็นปทุมรึไง ถึงเขาจะอายุพอๆกับแก แต่เขาก็มีฐานะเป็นเมียฉัน เป็นแม่เลี้ยงแก”

“ถ้าคุณพ่อให้ผมมาบ้าน เพื่อที่จะให้ผมยอมรับผู้หญิงคนนี้เป็นแม่เลี้ยงก็ป่วยการครับ” ณพเดินกลับออกไป นวลร้องไห้เสียใจแต่แอบยิ้มกริ่มที่เป็นไปตามแผน

พอรถณพแล่นออกจากบ้าน กิติกับอำนวยก็ขี่มอเตอร์ไซค์ สะกดรอยตามทันที จนมาถึงโรงแรมแล้วส่งข่าวบอกพิพัฒน์

ooooooo

ประตูเชื่อมห้องเปิดออก ลิลลี่ตกใจเมื่อเห็นณพเดินออกมา ถามทันทีทำไมกลับมาเร็ว ณพเล่นลิ้นว่าเป็นห่วงเธอมั้ง ลิลลี่งงคำว่ามั้ง แปลว่ามั่นใจใช่ไหม ณพยิ้มๆแล้วแต่จะคิด ลิลลี่โชว์กระเป๋าใบใหม่ให้เขาดู แล้วชวนเขาลงไปหาอะไรกินกัน ณพปฏิเสธขอตัวพัก แล้วเข้าห้องล็อกประตู ลิลลี่โวยวาย “นายผิดสัญญา ไหนบอกว่าจะไม่ล็อกห้องไง”

วันรุ่งขึ้น ปทุมวดีมาที่โรงแรมตามที่พิพัฒน์บอก ต้องแปลกใจเพราะเป็นโรงแรมเดียวกับที่ปีเตอร์มาพัก เธอหลบอยู่บริเวณล็อบบี้รอดูว่าณพจะอยู่กับลิลลี่หรือเปล่า พักใหญ่เธอก็เห็นณพเดินมากับลิลลี่จริงๆ เธอรีบโทร.บอกพิพัฒน์ โดยไม่รู้ว่าเขากำลังนอนอยู่กับงามตา

“ปทุมเจอนังนั่นแล้ว เจอเจ้าณพด้วย ทำไงดีล่ะพัฒน์ ปทุมกลัวเจ้าณพรู้เรื่องกุญแจ เรื่องมันจะไปกันใหญ่ อ้อ นังนั่นมันสะพายกระเป๋าใบเมื่อวานด้วยนะ”

พิพัฒน์ตาวาว “จับตาดูมันไว้ เดี๋ยวจะส่งไอ้สองคนไปกระชากกระเป๋ามันมา”

เสียงงามตาอ้อนขึ้นมา “พัฒน์ขา...”

ปทุมวดีตาโพลงถามว่าเสียงใคร พิพัฒน์กลบเกลื่อนว่าหูแว่วแล้วสั่งให้ปทุมวดีตามประกบดูณพกับลิลลี่ไว้ ขณะเดียวกันเพ้งกับเต็กก็ยังคงตามดูลิลลี่อยู่

ลิลลี่เห็นสวนสาธารณะข้างโรงแรมมีดอกไม้สวยงามอยากไปเดินเล่น ณพแซวว่าแต่งตัวเลิศแบบนี้จะไปเดินเล่น ลิลลี่เชิดขึ้น “คนสวย...แต่งยังไงก็สวยเป็นธรรมดา”

“นั่นต้องให้คนอื่นชม” ณพหัวเราะ

“งั้นคุณก็ชมฉันสิคะ...รอฟังอยู่” ลิลลี่จ้องณพเขม็ง จนณพหวั่นไหวหลบตาเดินหนี ลิลลี่วิ่งตามพลางร้องบอก “ชมฉันก่อนสิ ณพ...ฉันรอฟังอยู่นะ”

เพ้งกับเต็กต้องหลบเกรงณพจะเห็น แต่ด้วยสัญชาตญาณตำรวจของณพ ทำให้เขารู้สึกได้ว่ามีคนซุ่มมอง จึงหันกลับมาดึงลิลลี่หลบเข้าพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว ลิลลี่ตกใจ “จะทำอะไรฉัน...”

“จะออกไปให้ไอ้สองตัวมันจับตัวคุณเหรอ มันสะกดรอยตามคุณมานะ”

ลิลลี่จะอ้าปากพูด ณพปิดปากเธอแล้วดึงมาซบอกเขาเพราะเพ้งกับเต็กเดินใกล้เข้ามา สองคนหยุดมองหาตรงหน้าพุ่มไม้ที่พวกเขาหลบอยู่พอดี ณพกระชับกอดลิลลี่แน่นเข้า พอสองคนแยกย้ายกันเดินไป ณพก็คลายอ้อมกอดแล้วชี้บอกให้ลิลลี่วิ่งออกไปทางนี้ เขาจะล่อสองคนนั่นไปอีกทาง ลิลลี่มองณพอย่างห่วงๆ ณพรู้ทันรีบปลอบว่าไม่ต้องห่วง เธอต้องปลอดภัย



กิติกับอำนวยโดนปทุมวดีโวยที่มาช้า แล้วชี้ให้ไปกระชากกระเป๋าลิลลี่ ลิลลี่ตกใจวิ่งหนี อำนวยตามไปติดๆ เธอลัดเลาะมุดลอดกิ่งไม้ แล้วปล่อยดีดไปใส่หน้าอำนวยโดยบังเอิญ ปทุมวดีมองอย่างสมเพช กิติวิ่งไปดักหน้าลิลลี่อีกทาง ลิลลี่โดนประกบหน้าหลัง จึงร้องให้คนช่วย มีชายสูงใหญ่วิ่งออกกำลังกายผ่านมา เข้าไปกระชากคออำนวย กิติเห็นว่าสูงใหญ่ก็วิ่งหนีไปก่อน
รอดมาจากอำนวยกับกิติ ลิลลี่วิ่งมาเจอณพกำลังต่อสู้กับเพ้งและเต็ก เพ้งเห็นลิลลี่จึงบอกให้เต็กไปจับตัวไว้ก่อน ณพไวกว่าซัดทั้งสองล้มลง แล้วคว้าตัวลิลลี่วิ่งไปขึ้นแท็กซี่หนีได้ทัน...

นัดดากลับมาทำงานที่ร้านเสื้อเดิม และได้เพิ่มหน้าที่ออกแบบเสื้ออีกตำแหน่ง ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เธอจึงมาที่ร้านขายหนังสือ หาไอเดียใหม่ๆ...บังเอิญ ณพพาลิลลี่มาร้านหนังสือเช่นกัน แล้วลิลลี่ก็ได้พบกับนภา ต่างคนต่างดีใจ ลิลลี่เรียกเธอเต็มยศ “ศุภนภา...”

“เรียกซะเต็มยศเลย ไหนว่าจำชื่อเต็มๆของฉันไม่ได้ไง”

“ดีใจน่ะ อยากเจอเธอมากเลยนะ ที่มาเมืองไทยนี่ก็อยากมาหาเธอแหละนภา”

ณพยิ้มทักทาย ลิลลี่จึงแนะนำให้สองคนรู้จักกัน ณพถามนภาว่า “สอนแต่ภาษาไทยเหรอครับ ภาษาใจสอนด้วยหรือเปล่า”

นภายิ้มเขิน ลิลลี่ทำหน้างง “หมายความว่ายังไง นภา ขอคำอธิบายอย่างรวบรัด”

“เอ้อ ก็...ภาษาใจไม่ค่อยถนัดค่ะ ไม่เคยเรียน”

“อะไรกัน อธิบายหน่อยสิ” ลิลลี่ถามอีกด้วยความอยากรู้

นภาเปลี่ยนเรื่องชวนไปหาอะไรดื่มแล้วคุยกัน...นัดดาเห็นณพ ดีใจอยากเข้าไปทักแต่พอเห็นว่าไม่ได้มาคนเดียวจึงหลบ นภากับลิลลี่คุยกันหัวเราะร่วน ณพแขวะ

“ดูคุณนภามีอารมณ์ขันจังนะครับ ไม่เหมือนใครบางคนที่เอาแต่ใจตัวเอง”

ลิลลี่สะบัดหน้ามาจ้องณพ นภาแกล้งยั่ว “ถ้ามีคนคอยตามใจก็อยากเอาแต่ใจตัวเองดูบ้างเหมือนกันว่าจะเป็นยังไง ใช่มั้ยจ๊ะลิลลี่”

ลิลลี่ทำหน้างอนที่โดนรุม ณพขอตัวไปห้องน้ำเพื่อปล่อยให้สองคนคุยกันไปตามประสา ณพเดินครุ่นคิดว่าลิลลี่เจอเพื่อนแบบนี้ เขาคงหมดความหมายแล้ว พลันเสียงดาหวันเรียก

“ณพ...เห็นมั้ยใจเราตรงกัน แต่ก่อนเรามาช็อปปิ้งที่นี่ด้วยกันบ่อยๆ หวันคิดแล้วว่ายังไงณพต้องมาที่นี่”

ณพหน้าบอกบุญไม่รับ มองหาทางออก จึงโกหกว่าท้องเสียขอเข้าห้องน้ำก่อน ดาหวันอมยิ้มรอสักพักเดินเข้าห้องน้ำหญิงบ้าง ณพชะเง้อเห็นก็รีบหลบออกไปอย่างรวดเร็ว...เดินมาเจอนัดดาเข้าพอดีจึงหยุดทักทายกัน เผอิญปทุมวดีออกมาจากร้านทำผมเห็นเข้า รีบหลบข้องใจ

“เจ้าณพรู้จักนังลูกสาว ลูกหนี้ของพัฒน์ด้วย...หรือว่านังนี่จะรู้จักนังหมวยนั่นด้วย” ปทุมวดียิ้มกริ่ม

ณพกลับมาร้านที่ลิลลี่กับนภานั่งคุยกัน พอเห็นณพมา นภาขอตัวไปทำงาน

“ไปก่อนนะ มีสอนหนังสือ ถ้าว่างคุณพาลิลลี่ไปที่โรงเรียนสอนภาษาของฉันบ้างนะคะ”

“ครับ...เผื่อว่าบางทีคุณลิลลี่จะได้เรียนภาษาใจบ้าง”

“อันนั้นให้คุณณพสอนลิลลี่ดีกว่ามั้งคะ”

“สองคนนี่พูดอะไรกัน ไม่เห็นรู้เรื่องเลย...”

นภาไปแล้ว ณพถามลิลลี่จะกลับหรือช็อปปิ้งต่อ ลิลลี่กลับต่อว่าณพมีความผิดที่หายไปนาน ดีที่ตนมีนภานั่งคุยเป็นเพื่อน ไม่อย่างนั้นคงเหงาแย่ ณพหัวเราะฮึๆ คนอย่างลิลลี่รู้จักคำนี้ด้วยหรือ ลิลลี่ยังคาใจถามขึ้นว่า

“คุณคิดบ้างมั้ย สมมติว่าฉันนั่งอยู่คนเดียว แล้วมีคนตามมาจับตัวฉันไปตอนคุณไม่อยู่ ฉันจะทำยังไง”

“โอ๊ย อย่างคุณจะทำอะไรได้ นอกจากร้องโวยวาย ดูสิไอ้คนที่มันกระชากกระเป๋าคุณ คุณยังร้องให้พวกนักกีฬาหุ่นล่ำบึ๊กช่วยคุณได้เลย”

“แต่นี่มันในห้างนะ”

“คนเยอะกว่าอีก พอคุณร้องนะ ทุกคนในห้างก็แตกตื่นวิ่งมาตามเสียงคุณ...คิดดูสิ น่าสนุกแค่ไหน”

ลิลลี่หมั่นไส้บอกให้ณพจับตนสิ ณพถามทำไม ลิลลี่ว่าจะได้ร้องให้คนมากระทืบเขา ณพเหวอ ลิลลี่เดินไปดูหุ่นโชว์เสื้อแล้วเกิดชอบใจ “ฉันจำร้านนี้ได้ เสื้อผ้าสวยๆ เคยซื้อไปแล้ว”

“ค่ะ ถ้าชอบชุดไหนก็ลองได้เลยนะคะ” นัดดามาต้อนรับ

ณพยิ้มให้และบอกให้ช่วยบริการลิลลี่ด้วย ลิลลี่งงที่สองคนรู้จักกัน นัดดาบอกว่า ณพเป็นผู้มีพระคุณของตน นัดดามองจ้องสร้อยที่คอลิลลี่

“มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าคะ”

“ฉันเห็นสร้อยของคุณแล้ว พลอยทำให้คิดถึงคำพูดของเพื่อนคนหนึ่ง เธอเล่าว่าหากใครใส่สร้อยหรือสวมแหวนรูปปลาโลมาคู่ไว้ จะทำให้เจอคู่แท้ค่ะ”

“คู่แท้...” ลิลลี่ตื่นเต้น

“ทีแรกก็ไม่อยากเชื่อ ที่สุดเพื่อนคนนั้นก็เจอคู่แท้จริงๆค่ะ มาแบบไม่คาดฝันด้วย”

“จริงเหรอคะ”

“เรื่องนี้ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ ปลาโลมาคู่อาจทำให้คุณได้เจอคู่แท้หรือเจ้าชายในฝันอย่างที่คุณค้นหาก็ได้นะคะ”

ณพอมยิ้ม ถึงว่า แม่ของเขาถึงรักสร้อยเส้นนี้มาก แล้วเขาก็เศร้าลงไม่รู้ว่าวิญญาณแม่จะรู้ไหมว่าพ่อมีเมียใหม่ พอดีนัดดาถามลิลลี่ว่า “แล้วคนนี้เอ่อ ใช่เจ้าชายในฝันของคุณหรือเปล่าคะ”

ลิลลี่หน้าแดง “เปล่าค่ะ คนนี้ไม่นับค่ะ น่าจะเป็นคู่กัดมากกว่า”

นัดดาแอบดีใจ ลิลลี่มองณพที่ยืนเก๊กแล้วแนะนำ ณพเป็นบอดี้การ์ดจอมดุ ขี้เก๊กชอบโวยวาย ลิลลี่นึกได้ควานถุงในกระเป๋าออกมา เป็นสร้อยข้อมือที่ตนเลือกซื้อมาจะให้เข้าคู่กับสร้อยโลมา แต่ก็ไม่เหมือน นัดดาจึงบอกว่า ส่วนใหญ่คู่รักจะสั่งทำกัน แล้วเลยถามว่าลิลลี่ซื้อมาจากไหน ลิลลี่ชำเลืองมองณพก่อนจะตอบว่า จำไม่ได้แล้ว ณพเมินหน้าไปทางอื่นลอบถอนใจ

ooooooo

เดินตามหาณพทั่วห้าง สุดท้ายดาหวันมาเจอกับปทุมวดี จึงเกิดปะทะคารมกัน ดาหวันแค้นใจโทร.หาณพ ณพกำลังถือของพะรุงพะรังต้องหลบๆมารับสาย เกรงลิลลี่เห็น ดาหวันโวย

“ว่าไงล่ะคะณพ อยู่ๆก็หนีหวันไป หวันรู้นะว่าคุณยังอยู่ในห้างนี้ อย่าให้หวันเจอนะ หวันจะตะโกนดังๆ ให้คนทั้งห้างเขารู้กันไปเลยว่าเราเป็นอะไรกัน”

“อย่าบ้าน่า...”

“ไม่บ้าหรอก อย่าลืมนะคะณพว่าค่ำนี้เรามีดินเนอร์กัน หวันจะรออยู่ที่ร้านเดิมค่ะ”

“เดี๋ยวสิดาหวัน ผมไปไม่ได้ ผมมีงาน”...ดาหวันตัดสายไปก่อน ณพหัวเสีย พลันลิลลี่เข้ามาดึงมือถือไปจากมือณพ “เฮ้ย...ลิลลี่ นี่มันโทรศัพท์ผม”

“เวลางาน ห้ามคุยโทรศัพท์”

“แต่นี่มันเรื่องส่วนตัวของผมนะ”

“ใครบอก นี่มันเวลาทำงานต่างหาก เอ้า...” ลิลลี่ส่งถุงให้ถือเพิ่มอีก

ณพบ่น หายไปแป๊บเดียวได้มาอีกแล้ว ลิลลี่พยักหน้ายิ้มๆเดินตัวปลิวไป ณพส่ายหน้าระอาแต่ก็ระบายยิ้มออกมา...ปทุมวดีมาหาพิพัฒน์ที่บ้าน เพื่อบอกให้รู้ว่าณพรู้จักกับนัดดาด้วย พิพัฒน์เห็นช่องทางที่จะใช้นัดดาสืบหากุญแจตู้เซฟ พิพัฒน์เห็นปทุมวดีทำผมมาใหม่ ชมว่าสวยแล้วให้กลับไปเอาใจสามี วันนี้เขามีงานต้องทำ ปทุมวดีระแวงว่าเขามีหญิงอื่น พอออกมาหน้าบ้านก็พบกับงามตาเข้าพอดี ปทุมวดีไม่พอใจซักถามว่าเป็นใครมาทำไม กิติปรี่เข้ามาบอกว่างามตาเป็นลูกหนี้ เอาเงินมาจ่าย ปทุมวดีไม่เชื่อ พิพัฒน์ออกมาปราม

“เขาก็แค่ลูกหนี้ของผม คุณจะหึงอะไรกันนักหนา”

ปทุมวดีสะบัดหน้าเดินกลับไปขึ้นรถเข่นเขี้ยวอยากจะร้องกรี๊ด “ฮึ อย่าให้รู้นะว่าคุณมีคนอื่น ปทุมจะฆ่าผู้หญิงของคุณทุกคนเลย...”

ในขณะที่ลิลลี่หมั่นไส้แกล้งนั่งเบาะหลังให้ณพเป็นคนขับรถ ณพถามประชด “จะไปไหนครับคุณผู้หญิง”

“ไปร้านอาหารที่คุณนัดกับใครทางโทรศัพท์”

“เสียมารยาท แอบฟัง”

“หรือจะให้ฉันโยนสร้อยเส้นนี้ออกไปนอกรถ” ลิลลี่จับสร้อยที่คอขู่

ณพหน้าเสีย ยอมพาลิลลี่ไปร้านที่นัดกับดาหวัน พอดาหวันเห็นณพเข้ามาในร้านก็ดีใจ แต่พอเห็นลิลลี่เดินตามมาและ มองตนอย่างเย่อหยิ่งจึงถาม “แล้วแม่นี่เป็นใครกันคะณพ”

“เจ้านายผมเอง...”

“เจ้านาย ต๊าย หน้าตาสวยๆอย่างเธอต้องจ้างผู้ชาย หน้าตาดีๆเดินตามด้วยเหรอ หวันสงสัยมานานแล้วว่าคุณทำงานอะไร ที่แท้ก็แก้เหงาให้นังหมวยนี่”

“หวัน คุณลิลลี่เธอไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเข้าใจ”

“ไม่ต้องมาปิดหวันหรอกค่ะ เรามานั่งทานอาหารอร่อยๆกันเถอะค่ะ...ถ้ารู้ว่าเป็นส่วนเกินก็หลีกไป” ดาหวันปรายตามองลิลลี่เหยียดๆ พร้อมกับดึงณพมาหาตน

ลิลลี่ไม่พอใจดึงณพให้กลับ ดาหวันโวยวายไม่ยอมณพรำคาญสุดๆ สะบัดทั้งสองคนกระเด็น ณพตกใจดึงลิลลี่ไว้ ปล่อยดาหวันเซไปกระแทกโต๊ะร้องโอยๆ ลิลลี่สะบัดตัวออกจากณพ เดินงอนๆ ออกไป ณพละล้าละลังแล้วตัดสินใจตามลิลลี่ออกไป ดาหวันร้องกรี๊ดๆ บ๋อยมาช่วยประคอง เธอกลับสะบัดวีนใส่ อย่ามาแตะต้องตัว แล้วคว้ากระเป๋าวิ่งตามณพออกไป

ลิลลี่งอน นั่งรถด้านหน้าคู่กับณพ เอาของโยนไว้เบาะหลังเต็มไปหมด ณพแกล้งกระเซ้า

“แบบนี้ ภาษาไทยเขาเรียกว่าหึง เราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย ถ้าผมจะนัดกับใครมันก็สิทธิ์ของผม”

“บอดี้การ์ดจะต้องอยู่ข้างผู้ว่าจ้างตลอด” ลิลลี่เริ่มพาล

“รวมถึงเวลานอนด้วยรึเปล่า ตอนอาบน้ำด้วยมั้ย หรือว่าตอนคุณเข้าส้วม จะต้องให้ผมอยู่ด้วยรึเปล่า”

ลิลลี่โกรธจ้องณพเขม็ง ณพจ้องตอบ รถจึงแฉลบ ลิลลี่ร้องสุดเสียงโผกอดณพแน่น ณพจอดรถข้างทางโอบกอดเธอไว้ พอเธอรู้สึกตัวเงยหน้าสบตาณพ ตกใจผลักเขาออก สะบัดหน้าบึ้งเชิด สั่งให้พาเธอกลับห้องพักณพยิ้มขำๆ

ooooooo

หลังอาบน้ำเสร็จ ลิลลี่สวมเสื้อคลุมเช็ดผมที่เปียกอยู่ในห้องน้ำ มองเหม่อครุ่นคิดถึงความหมายของสร้อยปลาโลมาที่นัดดาบอก ณพเปิดประตูห้องเข้ามาร้องเรียกเธอ ลิลลี่ตกใจรีบจะออกไปหา ณพมองไปรอบห้องไม่เห็นลิลลี่ แล้วเขาก็สะดุดตาเข้ากับสร้อยของเขาที่ลิลลี่วางไว้บนโต๊ะหัวเตียง ณพจะเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เสียงลิลลี่ร้องโอ๊ยออกมา ณพตกใจถลาไปเคาะประตูห้องน้ำ “ลิลลี่ ลิลลี่ คุณเป็นอะไร เปิดสิ เปิด...”

ลิลลี่เปิดประตูออกมา ณพเห็นสร้อยข้อมือเธอพันอยู่กับผมยุ่งเหยิง เขาหัวเราะก๊าก

“ตลกมากหรือไง” ลิลลี่หน้าเหยเกโกรธๆ

“มา...ผมแกะให้เอง คุณใจร้อนยิ่งแกะยิ่งยุ่ง”ณพกลั้นหัวเราะ เก๊กขรึม

พอหลุด ณพก็ถามเธอ สระผมทำไมไม่รู้จักถอดสร้อย ลิลลี่หน้ามุ่ย “ก็เรียกฉันทำไม จนฉันตกอกตกใจ ดีนะว่าฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว”

“เสียดาย...” ณพมองลิลลี่อย่างสำรวจ

“เสียดายอะไร พูดมานะ”

“นึกว่าจะได้เห็นคุณโป๊ซะอีก...โอ๊ย...พอแล้วลิลลี่ คุณแต่งตัวให้เสร็จนะ ผมมีธุระสำคัญจะคุยกับคุณ” ณพปัดป้องการทุบตีจากลิลลี่แล้ววิ่งหนีเข้าห้องตัวเองไป

พอแต่งตัวเสร็จ สวยเฉี่ยวเช่นเคย ณพเข้ามาหาลิลลี่อีกครั้ง เพื่อพูดธุระ ณพบอกให้เธอย้ายโรงแรม เพราะที่นี่ไม่ปลอดภัย มีแต่คนคอยจะจับตัวเธอ และเธอก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นใครกันแน่ ลิลลี่ถอนใจบอกเพียงว่ายังไม่ถึงเวลา และที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็สนุกดี

“วิ่งหนีตาตั้งเนี่ยนะสนุก คุณต้องการแบบนี้เรอะ”

“ฉันไม่อยากติดคุก ฉันต้องการอิสระ แล้วฉันก็สนุกกับมันด้วย”

ณพหัวเสีย เชิญเธอสนุกไปคนเดียว สองคนจ้องหน้ากันไม่ลดละ

ooooooo

คืนนั้น อุทัยไม่สบาย นัดดาจึงออกไปซื้อยา ระหว่างทางเจอกิติกับอำนวยลากขึ้นรถ พอดีเก่งขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา แต่นัดดาถูกปืนจ่ออยู่ในรถไม่กล้าร้องเรียก เก่งแวะมาเยี่ยมที่บ้านพอเห็นอุทัยไม่สบายและนัดดาไม่อยู่จึงจัดการดูแลแทน

นัดดาถูกเอาตัวมาพบพิพัฒน์ เพื่อขู่บังคับให้ทำงานให้ “เป็นสายให้ฉัน คอยรายงานความเคลื่อนไหวของนังหมวยนั่น”

“ฉันไม่ได้สนิทกับเธอมากขนาดนั้น เพิ่งรู้จักกัน ฉันทำไม่ได้หรอก”

“ฉันไม่สนหรอกนะ ว่าเธอจะทำได้หรือไม่ ฉันรู้แต่ว่าฉันต้องได้ข่าวผู้หญิงคนนั้น ถ้าเธอทำงานให้ฉันสำเร็จ ฉันจะคืนสัญญาเงินกู้ของพ่อเธอให้ ถ้าไม่ ก็หาเงินมาใช้พรุ่งนี้ก่อนเที่ยง แล้วรอดูพ่อเธอเจ็บตัว”

นัดดาเดินเศร้ากลับบ้าน เก่งยืนรออยู่หน้าบ้าน ต่อว่าหนีเที่ยวทั้งที่พ่อป่วย นัดดายังเคืองที่เก่งจับพ่อของเธอเข้าคุกครั้งก่อน จึงไล่ให้เขากลับไป

เช้าวันใหม่ นวลเผอิญผ่านมาได้ยินปทุมวดีคุยโทรศัพท์กับพิพัฒน์ แล้วโวยวายเพราะได้ยินเสียงงามตาเล็ดลอดเข้ามา พอวางสายหันมาเจอนวลจึงโมโห ตบหน้านวลหาว่ามาแอบฟัง ไม่ทันไร สร้อยวิ่งมาตามบอกว่าอาคมเป็นลม ทั้งนวลและปทุมวดีรีบวิ่งไป...นวลโทร.ตามณพให้รีบกลับมา ปทุมวดียังคาใจ พอจัดการอาคมให้นอนพักเรียบร้อยจึงแอบไปโทร.หาพิพัฒน์อีกครั้งเพื่อถามว่าอยู่กับงามตาใช่ไหม พิพัฒน์รำคาญ

“ผมจะอยู่กับใครมันก็เรื่องของผม ไม่เหมือนคุณนี่มีไอ้แก่นั่นคอยอยู่ข้างๆ ผมไม่มีใครนี่”

“ทำไมคุณพูดยังงี้ล่ะ ปทุมเสียใจนะ”

พิพัฒน์โวยว่าเขาทำงาน ปทุมวดีโต้กลับว่าตนต้องการพบเขา พลันนวลถือถาดข้าวต้มผ่านมา ปทุมวดีรีบวางสายมองตาขวาง นวลเข้าไปหาอาคมในห้อง ปทุมวดีรีบตามเข้าไป นวลบอกอาคมว่าณพกำลังมาเยี่ยม ปทุมวดีได้โอกาสขอตัวไปข้างนอก อ้างว่าไม่อยากอยู่ทะเลาะด้วย

เมื่อรู้ว่าพ่อไม่สบาย ณพเป็นห่วงจะมาบอกลิลลี่ว่าเขาจะกลับบ้าน พอดีลิลลี่ออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ เธอตกใจมองณพอย่างไม่ไว้ใจ ณพรีบบอกว่าเขาไม่ทำอะไรหรอก แค่จะมาขอลา ลิลลี่ทำหน้างงๆ ณพจึงบอกว่าพ่อเขาไม่สบาย ลิลลี่ขอไปด้วยคน

“เอ้อ บ้านผมจน ไม่สะดวก จะทำให้คุณลำบากเปล่าๆ”

“ฉันไม่เคยคบคนที่ฐานะ ให้ฉันไปด้วยดีกว่า”

“คุณลิลลี่ครับ คือว่าพ่อผมมีเมียน้อย เธอไม่ถูกกับผม แถมยังขี้หึงอีกต่างหาก ผมกลัวเธอจะเข้าใจผิดคิดว่าคุณเป็นแฟนอีกคนหนึ่งของพ่อ เมียน้อยจะตบคุณตาย”

“ณพก็ช่วยฉันสิ ณพเป็นบอดี้การ์ดของฉันนี่”

“อย่าเลย...ถ้าไปทะเลาะกันเสียงดัง เกิดพ่อผมตายไป ใครจะรับผิดชอบล่ะ”

ลิลลี่ยอมจำนน...ณพไปไม่ทันไร เขาก็โทร.กลับมาทั้งที่ยังไม่ถึงบ้าน แต่เป็นห่วงเธอ จึงอยากย้ำว่าอย่าออกไปไหนจนกว่าเขาจะกลับ ลิลลี่ปลื้มบอกให้เขารีบกลับมาแล้วกัน พอวางสายเธอก็กลับแต่งตัวออกจากห้องเพราะทนอุดอู้อยู่คนเดียวไม่ไหว แต่ไม่ทันจะออกไป เพ้งกับเต็กก็พาเง็กมา ลิลลี่ดีใจโผกอดเง็กและพาเข้ามาคุยในห้องตามลำพัง เพ้งดีใจที่เห็นลิลลี่มีความสุขและหวังว่า เง็กนี่แหละที่จะช่วยดึงเธอกลับฮ่องกง

ooooooo

พิพัฒน์ส่งอำนวยกับกิติตามดูนัดดา ขณะที่เธอเดินทางไปทำงาน พอดีเก่งมารอรับหน้าบ้าน ทำให้สองคนไม่กล้าเข้าใกล้...ปทุมวดีมาจับผิดพิพัฒน์ที่บ้าน และก็เจองามตาเข้าอย่างจังจึงอาละวาดตบตี ไล่ตะเพิดออกไป พิพัฒน์หน่ายใจ แต่ต้องยอมๆ ไปก่อนเพราะกลัวเสียแผน

เง็กสำรวจตรวจตราในห้องลิลลี่ เห็นมีประตูเปิดไปห้องของณพได้ก็ตกใจ ลิลลี่ห้ามไม่ให้เข้าไปวุ่นวายห้องนั้น แล้วชวนเง็กออกไปเดินเล่นแทน เพ้งกับเต็กแอบตามคุ้มกัน...ปีเตอร์โทร.ถามข่าวคราวเพ้งและบอกว่าเขาจะมาเมืองไทย เพ้งรายงานตามตรงว่าตอนนี้ณพไม่อยู่ ปีเตอร์จึงบอกให้ตามดู เขาจะเอาตัวเธอกลับให้ได้ เต็กเร่งเพ้งเพราะ เห็นลิลลี่ขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว...

พอมาเยี่ยมพ่อ ณพก็ทนไม่ได้ที่อาคมพูดแต่ให้เขาเคารพปทุมวดี พ่อลูกจึงถกเถียงกันอีก ณพลากลับไม่ทานข้าวที่นวลอุตส่าห์เตรียมไว้ให้ นวลเสียใจ สร้อยรีบโทร.รายงานปทุมวดี

ณพโทร.หาลิลลี่พอรู้ว่าออกไปข้างนอกก็ไม่พอใจ “คุณขัดคำสั่งผม ผมจะเลิกเป็นบอดี้การ์ดให้คุณ”

“คิดว่าฉันง้อเหรอ ฮึ ไม่มีนายฉันก็สบายใจดี ขอให้รู้ไว้ด้วยว่า ไม่มีนายฉันก็มีคนอื่น”

ลิลลี่ตัดสาย เง็กถามว่าคุยกับใคร ลิลลี่เดินไปกดเอทีเอ็ม กิติกับอำนวยแอบมองยิ้มกริ่ม ณพอดห่วงไม่ได้โทร.หาลิลลี่อีกครั้งถามว่าเธออยู่ที่ไหน ลิลลี่ไม่รู้ ณพให้อ่านป้ายแถวนั้น ลิลลี่มองหาป้ายแล้วอ่าน...สยามสแควร์ ทันใด กิติเข้ามากระชากกระเป๋าเธอ ลิลลี่ร้องลั่น ณพตกใจรีบบึ่งรถไปทันทีเพราะเขาอยู่แถวนั้นพอดี ลิลลี่วิ่งตามจะเอากระเป๋าคืน แล้วหกล้ม เพ้งกับเต็กตามมาช่วยประคองเธอ ณพมาถึงเข้าใจผิด ชกต่อยกับเพ้งและเต็กยกใหญ่ ลิลลี่ร้องให้หยุดแล้วให้เพ้งกับเต็กกลับไป ณพประคองเธอมาขึ้นรถ เง็กตามมานั่งเบาะหลัง

“คุณเป็นใคร ขึ้นมาบนรถผมทำไม...” ณพถามอย่างไม่พอใจ

“คุณหนู...บอกเขาสิว่าอั๊วเป็นใคร”

ลิลลี่ตอบว่าเง็กเป็นพี่เลี้ยง ณพหัวเราะ “ป๊ะป๋าคุณนี่เขาดูแลดีจังนะ ถึงกับมีพี่เลี้ยงด้วย”

ณพถามเง็กว่าแต่ก่อนทำงานแบบลิลลี่หรือเปล่า เง็กไม่เข้าใจ ณพว่าพูดไทยได้คงเคยมาหากินเมืองไทย ลิลลี่ออกตัวว่าตนสอนภาษาไทยให้เง็กเอง เพราะป๊ะป๋าเคยทำธุรกิจกับคนไทย ทั้งตน เพ้ง และเต็กพูดไทยได้ ณพเหลือบเห็นลิลลี่มีแผลที่เข่า จึงจอดรถดึงทิชชูมาซับเลือด เง็กชะโงกหน้ามามองสายตาทั้งสองคนที่มองกันอย่างซาบซึ้ง ณพลงไปซื้อผ้าพันแผล เง็กบ่นสงสัยแผนจะเสีย ลิลลี่ถามว่าแผนอะไร

“อ้าวก็แผนที่จะพาคุณหนูกลับฮ่องกงสิคะ ดูตาคุณหนูแล้วแคร์หนุ่มไทยคนนี้มาก”

“ฉันน่ะเหรอแคร์นายณพ” ลิลลี่ปฏิเสธเป็นแค่เพียงเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น

พอณพทำแผลให้เสร็จ ลิลลี่ขอโทษที่ไม่เชื่อฟัง แต่ณพกลับบอกว่าไม่ต้องการ อยากรู้ว่าเธอเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า ลิลลี่ซาบซึ้งกับความห่วงใย แต่ถึงอย่างไรณพก็ต้องทำโทษเธอ เขาจะขังเธอไว้ในห้อง เง็กร้องไอ๊หยาเพิ่งมาอดเที่ยวเลย ณพเอ็ด ไม่ยอมก็กลับไป เง็กหน้าเจื่อน

ooooooo

ที่มา ไทยรัฐ

No comments:

Post a Comment